NICOL BOLAS

"จะก่อกำเนิด หรือจะมรณะ... ทุกอย่างกลับไปเป็นเช่นเดิมได้"

 

Nicol Bolas เป็น Planeswalker เชื้อสายมังกรเพศผู้ มีเกล็ดทั่วตัวเป็นสีทอง และมีความฉลาดเหนือกว่ามังกรตัวอื่นๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นมังกรที่ยืนสองขาเหมือนกับคน และมีรูปร่างที่ยาวเก้งก้าง ต่างจากมังกรทั่วๆ ไป

มันมีเขาที่โค้งมาบรรจบกันที่วัตถุทรงรี ซึ่งจะลอยอยู่ระหว่างเขาด้านหน้า พร้อมกับปีกที่มีขนาดมโหฬาร แต่เมื่อมันบิน มันเป็นมังกรที่บินแล้วดูไม่สง่างามเลยซักนิด

ตัวของ Nicol Bolas สามารถพ่นไฟได้เหมือนๆ มังกรตัวอื่นๆ โดยที่ไฟของมันจะเป็นเปลวเพลิงสีดำ ที่ผสมไปด้วยเวทย์แห่งความตาย

จากลักษณะที่กล่าวไป Nicol Bolas เป็น Planeswalker ที่มีความเป็นสีฟ้า สีแดง และสีดำอยู่ในตัว มันฉลาดเป็นกรด และมันก็สามารถวางแผนอย่างแยบยลเพื่อให้ได้สิ่งที่มันต้องการ กับคติประจำตัวของมันที่ว่า "ไม่ว่าความเป็น หรือความตาย ทุกสิ่งย่อมย้อนกลับได้"

เมื่อ Nicol Bolas จะ Planeswalk มันจะหายไปในแสงสีทอง

 


ท่วงท่าการบินที่แสนจะ "ไม่สง่างาม" ของมัน

 

- กาลครั้งก่อน -

 

ในกาลก่อน ยุคที่มนุษย์ยังไม่ได้มีพลังอำนาจ ณ Plane Dominaria เป็นสถานที่ที่ถูกครอบครองโดยมังกรมาอย่างยาวนาน โดยมังกรที่มีความพิเศษกว่ามังกรตนอื่นๆ นั้นจะถูกเรียกว่า Elder Dragon

เหล่า Elder Dragon คือลูกชุดแรกของมหามังกรตัวแรก Ur-Dragon โดยเกิดมาจากการสบัดปีก จนมันก่อตัวเป็นพายุ เมื่อพายุนั้นสงบลง ลูกมังกรชุดแรกก็ได้ถือกำเนิดมา

เหล่า Elder Dragon นั้น นอกจากจะเป็นลูกมังกรชุดแรก พวกนี้ยังมีความสามารถอยู่ในระดับสูงเทียบเท่ากับเหล่า Planeswalker ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มี Planeswalker ด้วยซ้ำ และจะเกิดมาพร้อมกับความตระหนักรู้ตัวตน พวกมันจะรู้ว่ามันเกิดมาชื่ออะไร และรู้แม้กระทั่งว่า ตนเองอยู่ในใข่มากี่ปี

 

แน่นอนว่า Nicol Bolas ที่เรากำลังพูดถึง ก็เป็นหนึ่งใน Elder Dragon ครับ

 

อย่างไรก็ดี Nicol Bolas ในตอนแรกเกิดนั้นเขาเป็นมังกรแฝด เขากำเนิดมาจากใข่ใบเดียวกับ Ugin

ซึ่งนั่น ทำให้ทั้งคู่เป็นมังกรที่มีขนาดเล็กกว่าญาติพี่น้องที่กำเนิดมาพร้อมๆ กัน


Ugin มังกรผู้เป็นฝาแผดกับ Nicol


แต่ทว่า เหตุการณ์ที่เลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อลูกมังกรที่พึ่งเกิดมาพร้อมๆ กับพวกเขาตัวหนึ่ง กลับถูกล่าจากมนุษย์

Nicol ต้องการจะช่วยญาติมังกรของตัวเอง แต่ Ugin กลับเสนอให้หนีไป เพราะจากขนาดตัวที่เล็กกว่ามังกรตัวอื่นๆ การเข้าไปยุ่ง อาจจะทำให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อไปทั้ง 3 ตัวก็เป็นได้ 

 

ชีวิตในช่วงเริ่มต้นของ Nicol นั้น จึงไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก นอกจากการสูญเสียญาติไปต่อหน้าแล้ว ทั้งเขาและ Ugin จะโดนถากถาง และรังแกจากมังกรตัวอื่นๆ อยู่เสมอ

แต่ทว่า ทั้งคู่ก็เกิดมาพร้อมกับสติปัญญาที่เหนือกว่ามังกรตนอื่นๆ ทั้งคู่จึงใช้วิธีที่แตกต่างในการดำรงชีวิต เช่น

การล่าเพื่อหาอาหารก็จะใช้การวางแผน, วางกับดัก ไม่ได้บุกเข้าโจมตีตรงๆ เหมือนมังกรตนอื่นๆ

 

แม้แต่เรื่องชื่อ Nicol ก็ไม่ยอมที่จะน้อยหน้ามังกรตัวอื่นๆ เพราะบรรดา Elder Dragon ตัวอื่นๆจะเกิดมาพร้อมกับ 2 ชื่อ เช่น "Palladia Mors" หรือ "Chromium Rhuell" เป็นต้น เขาจึงตั้งนามสกุลให้กับตัวเอง เป็น Nicol Bolas นับตั้งแต่บัดนั้น

เวลาผ่านไป ทั้งคู่ก็ได้พบกับ "Arcades Sabboth" ซึ่งในตอนนั้น เขาใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ โดย Arcades เป็นมังกรที่มีสติปัญญาหลักแหลมไม่แพ้คู่แฝด Nicol, Ugin เลย

ซึ่งตัว Arcades เอง ก็สามารถตั้งตนเป็น Dragonlord หรือผู้นำของชุมชนนั้นๆ ได้

และนั่น ก็เป็นครั้งแรกที่มังกรแฝดทั้งคู่ ได้เห็นความอ่อนแอของเหล่ามนุษย์ ที่พร้อมจะถูกปั่นหัว ถ้าหากมันมีผลประโยชน์ต่อมนุษย์คนนั้น


Arcades มังกรผู้ปกครองมนุษย์ด้วยปัญญา และความสงบ


อย่างไรก็ดี เส้นทางของมังกรแฝดเริ่มแยกจากกันที่ตรงนี้ เพราะ Ugin เองได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ทั้งการเข้าสู่สมาธิ และการมีอยู่ของ Plane อื่นๆ จากเพื่อนมนุษย์

แต่ Bolas กลับมองเห็นประโยชน์จากความอ่อนแอของมนุษย์ และมันก็เริ่มดำเนินแผนอันแยบยลของมัน

 

Bolas ได้ชักชวนให้ Ugin กลับไปแก้แค้นมนุษย์คนที่เคยฆ่าญาติของพวกเขา แต่ทว่า มันกลับกลายเป็นการใช้ Ugin เป็นเหยื่อล่อให้นักล่ามังกรปรากฏตัวออกมาเท่านั้น

Ugin ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ Bolas กลับใช้ข้อตกลงเข้าไปหลอกล่อให้นักล่ามังกรคนนั้น กลายเป็นเหยื่อล่ออีกที และตัวของนักล่ามังกรก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ ชุมชนไปแล้ว

Bolas สร้างความดีความชอบจากการจัดการนักล่ามังกร ก็ตั้งตัวเองเป็นผู้นำสูงสุด และเริ่มเก็บเกี่ยวอำนาจจากบรรดามนุษย์ที่โง่เขลา

Ugin ที่ได้เห็นแล้วว่า Bolas ไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้น แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทำให้เขาเสียใจกับการหักหลัง และได้รับ Spark ทำให้เขา Planeswalk ออกไปที่ "Meditation Realm"

 

- การครองอำนาจ -

 

สิ่งที่ Bolas ทำ เริ่มสร้างความไม่พอใจให้กับมังกรตนอื่นๆ หนึ่งในนั้นก็คือ Palladia-Mors ที่ส่งลูกหลานมาลอบสังหาร Bolas

แม้ว่า Bolas จะถูกลอบสังหาร แต่มันก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ และกระตุ้นให้มันต้องใช้ สิ่งที่มันชำนาญที่สุด…

 

Bolas เริ่มทำการปั่นหัวเผ่ามังกรต่างๆ ให้เข้าร่วมรบกับมัน สงครามของเผ่าพันธ์ุมังกรได้เริ่มขึ้นแล้ว… 

จากการแก้แค้น ก็กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างเผ่า 

และสงครามครั้งนี้ก็ยืดเยื้อไปหลายพันปี

 

ความได้เปรียบอยู่ที่ Nicol Bolas ที่นอกจากจะได้เผ่าพันธุ์มังกรมาเป็นกองกำลังของตัวเองแล้ว มันยังสามารถดึงเอาเหล่ามนุษย์มาเข้าร่วมสงครามนี้ด้วย 

แต่ทว่า สงครามครั้งนี้ ทำให้เผ่าพันธ์ุมังกรแทบจะสูญพันธุ์ ในตอนท้าย เหลือเหล่า Elder Dragon เพียงไม่กี่ตัว ที่จะต้องปะทะกับ Nicol Bolas ที่มันมีกองกำลังเกือบครึ่ง Planes Dominaria


และ Ugin ก็กลับมา เขากลับมาช่วยเหล่า Elder Dragon ตัวที่เหลือ…

แต่สิ่งที่ Bolas ได้เห็นมันไม่ใช่แค่การเข้ามาช่วยเหลือของ Ugin 

ไม่ใช่แค่ความพ่ายแพ้ที่มันได้รับ

 

แต่ Ugin ที่ตอนนี้เป็น Planeswalker ไปแล้ว และมีพลังเหนือกว่ามันทุกๆ ด้าน…

 

ความโกรธ ความอิจฉา ความริษยา ทำให้ไฟในจิตใจของ Bolas ได้แผดเผาความรู้สึก มันได้รับ Spark และ Planeswalk ออกไปสู่ Meditation Realm

 

- ศึกพี่น้อง -

หลังจาก Bolas สามารถ Planeswalk ได้ มันก็ออกผจญภัยไปเรื่อยๆ จนวันที่มันกลับมาที่ Meditation Realm อีกครั้ง คราวนี้ฝาแฝดได้กลับมาพบกัน ทั้งสองเขาโจมตีกันและกัน และจบลงที่ความตายของ Ugin

คลื่นพลังจากการตายของ Ugin ระเบิดออก ทำให้เกิดระลอกคลื่นกระทบไปทั่วทั้ง Plane และคลื่นนี้ก็กระแทกให้ Bolas หลุดออกไปจาก Plane ก่อนที่มันจะไปหยุดที่อาณาจักร Madara ของ Dominaria 

 

เมื่อ Bolas มาถึง มันก็ต้องต่อสู้กับ Planeswalker อีกตัว ก่อให้เกิดความเสียหายจน Madara แทบหายไปจากแผนที่ ทว่า ยังมีอีกสิ่งที่ตามมาจากการต่อสู้ครั้งนี้…

 

รอยฉีกของประตูมิติ (Rift) ได้เกิดขึ้นที่ Madara นี่เป็น Rift แห่งแรกในประวัติศาสตร์ของโลก Magic

พวก Rift มันสามารถเป็นได้ทั้งประตูสำหรับเดินทางข้ามพื้นที่, ข้าม Plane, ข้ามเวลา และบางอันก็บิดเบือนเส้นทางมานาหรือ Leyline อีกด้วย

 

- ฝาแฝดที่ไม่ยอมตาย -

 

ชื่อเสียงของ Nicol Bolas เริ่มเป็นที่เรื่องลือ และหลายๆ คน ก็เริ่มที่จะหาวิธีหยุดตัว Bolas ลง… 

หนึ่งในนั้นคือ Azor ผู้เป็นผู้ก่อตั้งกิลด์ Azorius ที่ Ravnica โดย Azor ร่วมมือกับ Ugin ที่ตอนนี้กลายเป็นร่างวิญญาณไปแล้ว 

โดยแผนของทั้งคู่ จะใช้การตรึงไม่ให้ Bolas สามารถ Planewalk ไปที่ใดๆ ได้อีก 

ซึ่งจำเป็นที่จะต้องสละ Spark ของ Azor เพื่อสร้างเครื่องมือที่มีชื่อว่า Immortal Sun ก่อนที่ Ugin จะสังหาร Nicol Bolas ในที่นัดพบ…

ที่ plane Ixalan นั่นเอง


วิหารแห่ง Immortal Sun


แต่ทว่า Bolas เอง ก็รู้ทันแผนการ จากความไม่ระวังของ Azor ที่ทิ้งหลักฐานเอาไว้ทั่ว…

ตัวเลือกของ Bolas แน่นอนว่าไม่ใช่เดินเข้าไปหากับดัก… แต่มันเลือกที่จะจัดการกับ Ugin ก่อนที่ Ugin จะได้ไปที่ Ixalan

 

Bolas ไปที่ plane Tarkir อันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมังกร… มังกรที่เป็นลูกหลานของ Ugin

ซึ่งแน่นอนว่า มันต้องมีคนไม่พอใจการใช้ชีวิตในดาวที่เต็มไปด้วยมังกรแบบนี้ 

 

Bolas มันได้พบกับ "Yasova Dragonclaw" ผู้นำเผ่า Temur ที่ไม่พอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ และต้องการจะกำจัด Ugin เพื่อให้โลกใบนี้ไม่มีมังกร... เมื่อความเห็นตรงกันทั้งสองฝ่าย จึงไม่ใช่เรื่องยากที่แผนการของ Bolas จะดำเนินไปอย่างที่มันปราถนา


Yasova ผู้นำแคลนที่ถวิลหาอนาคตที่ไร้มังกร


Bolas ใช้เวทย์มนต์หลอนประสาท สร้างภาพเมืองอันแสนสงบสุข และปราศจากมังกรให้แก่ Yasova และสร้างภาพตัวเองเป็นผู้ทำภารกิจนี้ โดย Yasova เป็นผู้นำทางเขาไปที่รังของ Ugin

 

ภาพที่เห็นทำให้ Yasova เชื่ออย่างสุดหัวใจ เธอนำทาง Bolas ไปที่รังของ Ugin เพื่อให้มังกรทั้งสองเข้าโรมรันกัน

 

ทั้ง Yasova และ Bolas ร่วมมือกันจัดการกับ Ugin ได้ และทำให้ plane Tarkir ปราศจากมังกรตั้งแต่ตอนนั้น…

จวบจนเวลาผ่านไปอีก 1280 ปี ก่อนที่สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปอีกครั้ง...

 

- กายหยาบที่หายไป -

ตามที่เราเล่าไปในบทที่แล้ว Rift บางครั้งก็สามารถบิดเบือน Leyline ของ Plane ได้ 

ซึ่งที่ Madara นี่ก็เป็นอีก Rfit ที่มีการดึง Leyline ของมานาสีฟ้า สีดำ และสีแดงเข้ามาบรรจบบริเวณนี้เช่นกัน

ตัวของ Bolas เอง ที่ตอนนี้ไม่เพียงเป็นผู้เปิด Rift แต่มันยังเชื่อมตัวเองเข้ากับ Madara อย่างไม่ตั้งใจ

ซึ่งทำให้การมีตัวตนของ Bolas ในโลกความเป็นจริงนั้น เริ่มเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะมันจะต้องผ่านการรวบรวมมานาเสียก่อน

 

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอต่อการสังหารผู้นำแห่ง Madara แล้วตั้งตนเป็นผู้นำระดับ God-Emperor ของที่นี่…

 

ภายใต้อำนาจการปกครองอันแสนจะเห็นแก่ตัวของ Nicol Bolas นั้น ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจจากหลายๆ คน หนึ่งในนั้นคืออดีตลูกน้องฝีมือดี Tetsuo Umezawa

เขาเห็นภาพการหักหลัง ความพยายามบิดเบือนมานาให้เป็นไปดั่งใจของ Bolas ทำให้ Tesuo คิดจะทรยศ เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน Madara

 

ด้วยความมากฝีมือของ Tetsuo เขาสามารถจัดการกับลูกมือของ Bolas ได้อย่างไม่ยากเย็น ก่อนที่จะถึงเวลาของ Nicol Bolas


Tetsuo Umezawa


Mandara นั้น นอกจากเส้นทางมานาที่ถูกบิดเบือนและเชื่อมต่อเข้ากับ Bolas แล้ว 

Bolas ยังสร้าง ศาลเจ้าแห่งจักรพรรดิ์ (Imperial Shrine) ซึ่งเป็นศูนย์รวมมานาสีฟ้า สีแดง สีดำ และเป็นจุดที่ Bolas เก็บกายหยาบเอาไว้ เพื่อคงรูปโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากมายนัก

 

Tetsuo รู้ข้อมูลเหล่านี้ดี เขาได้ถอดวิญญาณตัวเอง และหลอกล่อให้ Bolas ต้องทิ้งกายหยาบไว้ เพื่อจะตาม Tetsuo ไปที่ Meditation Realm อันเป็นสถานที่ของความคิด และจิตวิญญาณ

เมื่อ Bolas ไปถึงที่นั่น จึงพบว่านี่มันเป็นกับดัก Tetsuo เพียงทำให้ Bolas ติดอยู่ที่นี่ ก่อนที่จะกลับไปที่ Mandara

 

Tetsuo กลับมาทำลาย Imperial Shrine ในขณะที่ Bolas ยังติดอยู่ที่ Meditation Realm 

ซึ่งนั่น ทำให้ Bolas ถูกตัดขาดจากการเชื่อมต่อกับมานาใน Mandara และไม่มีแล้วซึ่งกายหยาบ 

Bolas ก็กลายเป็นเพียงร่างวิญญาณ มันสูญเสียความสามารถในการ Planeswalk รวมถึงความสามารถในการใช้เวทย์มนต์ใดๆ

 

Bolas ที่กลายเป็นมังกรธรรมดา ก็ไม่คณามือ Tetsuo Umezawa อีกต่อไป Tetsuo จัดการกับร่างวิญญาณของ Bolas ได้อย่างง่ายดาย…

 

แต่ทว่า Bolas ยังมีความเชื่อมโยงกับอีกสิ่งหนึ่ง… นั่นคือ Rift หรือรอยแยกมิตินั่นเอง ส่วนหนึ่งของพลังวิญญาณของมันหนีไปได้ แต่ก็ไม่สามารถออกจากช่องหว่างระหว่างโลกแห่งจิตวิญญาณ กับโลกแห่งความเป็นจริง

 

- กลับสู่โลกคนเป็น -

วิญญาณของ Bolas ไม่สามารถไปไหนได้ นอกจากติดอยู่ที่ปากประตูมิติ… จนกระทั่ง ประตูมิติมันเริ่มเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ในช่วงเวลานั้น ยังมีความพยายามแก้ไขรอยแยกมิติเหล่านี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Venser และ Radha ผู้มีความสามารถจะเป็น Planeswalker ได้ แต่ในตอนนั้น ยังไม่ Spark

และนั่นคือทางหนีของ Bolas มันขโมยความสามารถในการ Spark ไปจากอนาคต Planeswalker ทั้งคู่ และนำพลังนั้นดึงร่างของตัวเองกลับมาสู่โลกคนเป็น
ก่อนที่มันจะดึงกายหยาบของตัวเองจากมิติเวลาอื่นๆ ผ่านทางรอยแยกของ Rift 

ซึ่งนั่นก็ทำให้สมาชิกในทีมของ Venser อย่าง Teferi ต้องเข้ามาช่วย

 

อย่างไรก็ดี Teferi ไม่สามารถต่อกรกับ Nicol Bolas ได้ และแลกกับการไว้ชีวิตของตัวเขาเอง Teferi จึงแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีเกี่ยวกับ Rift ให้กับ Nicol Bolas ฟัง


Teferi ผู้นำทีมปิดรอยแยก


ซึ่งในตอนนี้ ปัญหาเรื่องของ Rift นอกจากมันจะเริ่มขยายตัวแล้ว มันยังมีหลายรอยแยก จนทำให้เกิดความเสียหายใน Plane ต่างๆ และอาจทำให้ทั้งจักรวาลสลายไป… วิธีการแก้ไขที่ Teferi รู้ในตอนนี้ คือจำเป็นต้องสละ Spark ของ Planeswalker ที่เป็นคนเปิดมันเพื่อที่จะปิดมันลง

 

กระนั้น สิ่งที่ Bolas ต้องการในตอนนี้ กลับเป็นการตามล่าตระกูล Umezawa ก่อนสิ่งอื่นใด
มันจึงออกตามล่าคนในตระกูล Umezawa ที่ Kamigawa

ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร การกลับมาที่ Mandara ของ Bolas อีกครั้ง ก็ทำให้มันต้องปะทะกับ Leshrac ผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก Myojin of Night's Reach ที่เป็นเทพวิญญาณแห่งมานาดำใน plane Kamigawa

Leshrac ยังได้รับวัตถุทรงพลังอีกอย่าง นั่นคือหน้ากากแห่ง Night’s Reach ที่มีความสามารถในการดูดพลังของศัตรูได้... 

 

ทว่านั้นกลับไม่เพียงพอ… เพราะ Nicol Bolas กลับนำหน้ากากแห่ง Night’s Reach อีกอันออกมาดูดพลังของ Leshrac แทน… Bolas ไปเปิดเผยในวาระสุดท้ายของ Leshrac ว่า หน้ากากที่ Leshrac มีนั้น เป็นของปลอม เพราะมันได้จัดการกับ Myojin และยึดหน้ากากมาเป็นของตัวเองไปแล้ว…

 

และมันก็ถึงเวลาของการทดลอง… รอยแยกมิติที่ตอนนี้เป็นปัญหา และต้องการ Spark ในการปิดมันลง

Bolas จึงนำเอา Spark ของ Leshrac ไปใช้ปิดรอยแยก Rift ที่ Mandara… และมันก็ได้ผล

แต่มันไม่มีพลัง Spark ที่จะเอาไปปิด Rift ที่อื่นแล้ว มันจึงเอาผลการทดลองไปบอกกับ Teferi และปล่อยให้ทีมของ Teferi ไปจัดการกับ Rift ที่เหลือ

ส่วน Bolas ก็วางแผนที่จะไปหลบภัยที่อาจจะตามมาถ้าหาก Teferi ทำไม่สำเร็จ… มันเลือกไปที่ plane Amonkhet

 

- เทพพระเจ้าแห่งทะเลทราย -

ในขณะที่ทีมของ Teferi กำลังพยายามปิดรอยแยกอยู่นั้น Bolas ก็ได้พบกับเหล็กสีฟ้าที่ Plane Amonkhet

เหล็กสีฟ้านั้น มีชื่อว่า Lazotep และความพิเศษของมันคือการตอบสนองต่อเวทย์มนต์แห่งความตาย โดยเฉพาะการชุบชีวิต

แต่เส้นทางของผู้บุกรุกอย่าง Bolas เอง ไม่ใช่เส้นทางที่เรียบง่าย… ตอนนี้ ที่ Amonkhet มีเทพพระเจ้าอยู่ 8 องค์ ที่คอยดูแลประชาชนอยู่

 

แต่ Bolas เองก็ไม่ใช่มังกรธรรมดาๆ 

แม้ว่าจะเสียเปรียบด้านพละกำลัง แต่มันก็ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน แถมยังได้ Bontu ที่เป็นพระเจ้าแห่งความทะเยอทะยาน… เธอทะเยอทะยานจนคาดหวังว่า การเข้าเป็นพวกกับ Bolas นั้น เธอจะได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า


Bontu ผู้ทะเยอทะยาน และหมากตัวสำคัญของ Bolas


การทรยศจาก Bontu ทำให้ Bolas ได้เปรียบในศึกครั้งนี้ จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว Bolas ก็ใช้เวทย์มนต์เพื่อฆ่ามนุษย์ที่พอจะรู้เรื่องทุกคนใน Plane เหลือไว้เพียงเด็กที่ยังไม่รู้ประสาเท่านั้น

เทพเจ้าที่เหลือเหลือก็อ่อนแอจากเวทย์มนต์แสนทรงพลังนี้... เทพ 4องค์ ถูกล้างสมอง โดยผ่านการควบคุมจาก Bontu อีกที 

ส่วนเทพอีก 3 องค์นั้น ถูกสร้างขึ้นใหม่ จนมีสถานะเปรียบเสมือนทาสรับใช้ของ Bolas และถูกนำไปซ่อนไว้

 

Bolas เริ่มแผนต่อไปของมัน มันเริ่มสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อให้ประชาชนที่เหลือเห็นแล้วจะระลึกถึงมัน

มันสร้างบ้านเมืองพร้อมใช้เวทย์มนต์ป้องกัน เพื่อที่จะสร้างคำสาป และสิ่งอันตรายภายนอก ให้คนศรัทธา และรับรู้ถึงพลังของมัน

มันสร้างข่าวลือถึงการเป็นเทพพระเจ้าสูงสุดผู้สร้างทุกสรรสิ่งใน Amonkhet

มันเขียนคำทำนายถึงตัวเอง ในยามที่มันกลับมา พร้อมกับการขึ้นของพระอาทิตย์ดวงที่สอง และเมื่อถึงโมงยามสุดท้าย มันจะนำพาประชาชนแห่ง Amonkhet ไปสู่ชีวิตนิรันด์

 

“ดวงตะวันที่สอง จะขึ้นระหว่างรูปปั้นแทนเขาของข้า 

โมงยามแห่งการเปิดเผยจะมาถึง ความแคลงใจจักได้รับคำตอบ

โมงยามแห่งความรุ่งโรจน์จะมาถึง เหล่าเทพและพวกเจ้า จักได้ทดสอบความศรัทธาในข้า

โมงยามแห่งสัญญาจะมาถึง ข้าจักทำลายเวทย์มนต์ที่ป้องกันพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว

เมื่อความแคลงใจทั้งหลายหายไป โมงยามแห่งความนิรัดร์จะมาถึง ผู้ศรัทธาจักได้อยู่เคียงค่าข้า ชั่วนิรันดร์”

 

นี่คือสิ่งที่ Bolas เขียนทิ้งไว้ ก่อนที่จะทิ้ง plane นี้ให้ Bontu และเหล่ามัมมี่คอยดูแลเด็กๆ ที่กลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อของมันเติบโต

 

ก่อนที่จะไปอ่านเรื่องราวในตอนที่ 2 ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 สามารถตามไปอ่านได้ ที่นี่ เลยครับ

 

- พลังที่หายไป และการนำมันกลับมา -

 

หลังจากรอยแยกต่างๆ ถูกปิดลงไปจนหมด ก็ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ The Great Mending ที่ทำให้ดาวต่างๆ ดึงพลังกลับไปเป็นของตัวเอง และทำให้ Planeswalker ทุกๆ ตนสูญเสียพลังไปอย่างมหาศาล

 

ในช่วงเวลานี้ Liliana Vess ก็ได้พบกับ Nicol Bolas ที่สูญเสียพลังไปอย่างมากมาย 

แต่เพียงพลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของ Nicol Bolas ก็ยังถือว่ามีพลังมหาศาลสำหรับ Liliana อยู่ดี ซึ่งนั้นเป็นเหตุและผลหลักๆ ที่ Liliana ต้องการทำสัญญาปีศาจเพื่อนำพลังของเธอกลับมา ผ่านทาง Nicol Bolas นั่นเอง


Liliana Vess ผู้ที่เคยได้สัมผัสพลังระดับก่อน Great Mending

 

ส่วน Nicol Bolas เอง ก็หาทางที่จะนำพลังของมันกลับคืนมาเช่นกัน 

ณ Alara ที่เป็น Plane ที่ตัวดาวเองแยกเป็นส่วนๆ และมี Leyline ภายในแต่ละส่วนของดาวไม่เหมือนกัน กลายเป็นเป้าหมายของ Bolas

เนื่องจากในตอนนี้ ดาวยังคงแยกกันเป็นส่วนๆ และทำให้ตัว Bolas เอง สามารถเข้าไปแทรกซึม และวางตัวหมากในแต่ละส่วนของดาวเพื่อให้ทำตามแผนของมันเอง ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ชื่อ Conflux

 

Conflux คือเหตุการณ์ที่จะทำให้แต่ละส่วนของ Alara กลับมารวมกันเป็นดาวดวงเดียว ซึ่งนั้น เท่ากับว่า Bolas จะสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานจากมานาทุกๆ สีได้ในคราวเดียวกัน

 

แม้ว่าสุดท้ายแล้วแผนการของ Bolas จะไม่สำเร็จก็ตาม แต่มันก็ได้ลิ่วล้อเพื่มเข้ามา โดยมี Planewalkers 2 คนคือ Tezzeret กับ Sarkhan Vol

 

โดย Tezzeret นั้น บาดเจ็บปางตายจากเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับ Spark และหลุดไปอยู่ในส่วน Grixis ที่เป็นเสี้ยวของ Alara และเป็นส่วนที่ตัวหมากสำคัญของ Bolas อย่าง Kederekt อยู่ที่นี่ 

Tezzeret เองสามารถเอาชนะ และรอดชีวิตจากการโจมตีของ Kederekt ได้ ก่อนที่ Bolas เอง จะเสนอข้อแลกเปลี่ยน ด้วยการมอบพลัง และไว้ชีวิต Tezzeret แลกกับการตกเป็นข้ารับใช้ของ Bolas ซึ่ง Tezzeret ก็ตอบตกลง


Tezzeret ผู้มีความชำนาญด้านเครื่องจักรกล

 

ในขณะที่ Sarkhan เขามาที่ Alara เพื่อมองหามังกรผู้ยิ่งใหญ่ ก็ถูกล้างสมองโดยมังกรอย่าง Bolas และตกเป็นทาสของมันไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


Sarkhan หมอผีผู้ตามหาสุดยอดมังกร
 

ในช่วงเวลาที่ Tezzret เข้ามาเป็นลิ่วล้อของ Bolas ไม่นาน ตัว Tezzeret เองก็เริ่มกระด้างกระเดื่อง และพยายามจะหนีจากการควบคุมของ Bolas 
แต่ก็จบลงที่ตัวของ Tezzeret เอง ถูก Liliana ที่ได้รับคำสั่งอย่างลับๆ มาจาก Bolas อีกที ให้เข้ามาจัดการปัญหาที่ Tezzeret ก่อไว้

 

ซึ่งเนื้อเรื่องในตอนนี้ คือช่วงที่ Liliana เจอกับ Jace นั่นเอง โดยปมเบื้องหลังทั้งหมด มีที่มาจาก Bolas ที่สั่งให้ Liliana เป็นคนจัดการ Tezzeret แต่เธอกลับหลอกใช้(?) Jace แทน

ซึ่ง Bolas เองต้องการองค์กร Infinite Consortium ที่ถูก Tezzeret แอบเปลี่ยนคนภายใน และยึดไปเป็นของตัวเอง กลับมา
แต่สุดท้าย ผู้ที่จัดการ Tezzeret คือ Jace ทำให้ผู้นำองค์กรนั้น กลายเป็น Jace ไม่ใช่ Liliana ตามที่ Bolas คาดหวังให้เป็นหมากในกระดานของมัน

 

- เดินหมากนอกกระดาน -

หลังจากเหตุการณ์ Conflux ที่ Alara กับแผนการที่ล่มไปเป็นท่าของ Bolas 

ตัว Bolas ก็ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของ Mirrodin อันเป็นดาวสังเคราะห์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย Karn ที่เป็น Planewalker เช่นกัน

โดยที่ Mirrodin นั้น สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ และเครื่องจักรต่างๆ นั้น มีความคิดอ่านเป็นของตนเอง และทำให้ Bolas เกิดความสนใจขึ้นมา ทั้งจากพลังที่ทำให้ดาวที่เกิดขึ้น และจากบรรดาเครื่องจักรที่เริ่มวิวัฒน์ตัวเองไปได้เรื่อยๆ 

 

ซึ่งหน้าที่ในการเป็นสายลับก็ตกเป็นของ Tezzeret ผู้ที่มีความชำนาญด้านเครื่องจักร และสิ่งสังเคราะห์เป็นที่สุด

ซึ่งนั่นทำให้ Bolas ได้รู้ถึงการจัดตั้ง “ระดับชนชั้น” และรูปแบบการปกครองของเหล่าเครื่องจักร ที่ไม่น่าจะมีความคิดซับซ้อนขนาดนี้ 

 

Bolas ต้องการจะเข้าแทรกแซง และยึดดาวนั้นมาเป็นของตัวเอง ด้วยการส่งให้ Tezzeret เข้าไปเป็นผู้นำสูงสุด แต่ทว่า  Tezzeret ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการนั้นได้ ในตอนนี้ Mirrodin ได้ตกอยู่ใต้การปกครองของ Elesh Norn ที่เป็นสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์จาก Mirrodin นั่นเอง


Elesh Norn จักรกลสังเคราะห์ ที่เป็นผู้นำ Mirrodin

 

นอกจากที่ Mirrodin แล้ว ที่ Zendikar เอง ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ Bolas เองให้ความสนใจ มันเจอกับวิหาร Eye of Ugin ที่มีชื่อของ Ugin อันเป็นฝาแฝด Elder Dragon ของมันอยู่ที่นี่

Bolas จึงเลือกที่จะส่ง Sakhan Vol ที่เป็น Shaman ผู้ติดต่อกับมังกรได้ และมีความคลั่งใคล้มังกรเข้าไปเฝ้าระวังที่วิหารแห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ Ugin ที่อาจจะกลับมาจากความตายได้หลุดรอดสายตา

 

ทว่า… จุดประสงค์ที่วิหารนี้ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อเป็นสถานที่ในการกลับมาของ Ugin แต่มันกำลังกักขังสิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่ที่ Plane นี้… Eldrazi นั่นเอง


วิหารของ Ugin
 

เมื่อ Bolas ได้รับทราบข้อเท็จจริงนี้ มันจึงเริ่มแผนการใหม่ มันพยายามจะปลดปล่อย Eldrazi ออกจาก Zendikar ด้วยการปลดล็อกพลังจาก Hedron ที่เป็นหินดูดซับพลัง

ตัวหิน Hedron นั้น จะถูกปลดล็อกจากการใช้ Spark ของ Planeswalker 3 ตน มันหลอกล่อทั้ง Chandra และ Jace มาที่นี่ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ดี ในตอนนี้ผนึกก็ยังไม่ถูกปลดออก ก่อนที่ทั้ง Jace, Chandra และ Sarkhan จะแยกย้ายกันไป

 

- ไม้ที่ผลิดอก -

ที่ Amonkhet ในตอนนี้ หลักฐานต่างๆ ที่ Bolas สร้างไว้ตั้งแต่ก่อน Mending ได้แสดงผลงานของมันแล้ว

บรรดาประชาชนในเมืองทุกๆ คน เชื่ออย่างสนิทใจถึงหนทางแห่งการเป็น “นักรบผู้ควรค่า” และยินดีที่จะเข้าสู่การทดสอบที่จะจบลงด้วยความเป็น ”นิรันดร์” ของพวกเขา (ด้วยการกลายเป็นผีดิบ หุ้มด้วยเหล็ก Lazotep)

 

ด้วยปริมาณนักรบผีดิบอมตะของ Bolas ที่มีมากมายเกินคณานับ จากช่วงเวลาหลายพันปี
Nicol Bolas พึงพอใจกับผลงานของมัน และคิดว่าถึงเวลาที่จะเริ่มแผนการที่ยิ่งใหญ่ สู่การฟื้นคืนพลังก่อน Mending ของมันอีกครั้ง

 

Bolas กลับไปที่ Amonkhet ในฐานะ God Pharaoh ผู้ยิ่งใหญ่
มันกลับไปพร้อมกับ Second Sun หรือพระอาทิตย์ดวงที่สองที่ขึ้นมา บทกวีที่มันเขียนไว้ ได้กลายเป็นความจริงแล้ว...

 

“ดวงตะวันที่สอง จะขึ้นระหว่างรูปปั้นแทนเขาของข้า 

 

โมงยามแห่งการเปิดเผยจะมาถึง ความแคลงใจจักได้รับคำตอบ : ประตูแห่งคนตายได้ถูกเปิดออก ปีศาจ Rakazeth สยายปีก โบยบินเพื่อคร่าชีวิตผู้คน แม่น้ำแห่งชีวิตได้กลายเป็นสีเลือด หากผู้ใดแคลงใจ คำตอบที่เขาจะได้รับนั่นคือ บทกวีเหล่านี้ มันเป็นความลวงจากเทพเจ้าฟาโรห์

 

โมงยามแห่งความรุ่งโรจน์จะมาถึง เหล่าเทพและพวกเจ้า จักได้ทดสอบความศรัทธาในข้า : เทพที่ Bolas ได้สร้างให้กลายเป็นทาสไร้สติ ได้ออกมาจากที่ซ่อน และสังหารเทพองค์เก่าทั้งหมด เทพองค์เก่านั้นหาได้มีความคู่ควร เมื่อเทียบกับเทพที่ Bolas ได้สร้างขึ้นมา ความรุ่งโรจน์ของ Bolas ได้มาถึง หาใช่ความรุ่งโรจน์ของประชาชนไม่

 

โมงยามแห่งสัญญาจะมาถึง ข้าจักทำลายเวทย์มนต์ที่ป้องกันพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว : เมื่อเทพที่ไม่คู่ควรได้สิ้นชีพลง ประชาชนที่ไม่คู่ควรก็ไม่สมควรมีชีวิตต่ไปเช่นกัน ฝูงแมลงจากเทพแห่งแมลงที่ Bolas ได้สร้างขึ้น บินปกคลุมท้องฟ้าก่อนที่จะสังหารประชาชนจนสิ้น เวทย์มนต์ที่ใช้ป้องกันประชนก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว เมื่อไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ เหลืออยู่ให้มันปกป้องอีก

 

เมื่อความแคลงใจทั้งหลายหายไป โมงยามแห่งความนิรัดร์จะมาถึง ผู้ศรัทธาจักได้อยู่เคียงค่าข้า ชั่วนิรันดร์ : กองทัพผีดิบผู้เป็นนิรันดร์จะถูกปลดปล่อย นักรบผู้ผ่านการทดสอบ และกลายเป็นผีดิบด้วยศรัทธาสุดท้ายอันแรงกล้า คือผู้ศรัทธาที่แท้จริง"

 

และสุดท้าย โมงยามที่ไม่ได้เขียนไว้ในบทกวี "โมงยามแห่งการทำลายล้างได้มาถึง… เหล่า Gatewatch ผู้ปกป้องภัยพิบัติได้รับความพ่ายแพ้"

 

  • Jace เข้าสู่จิตใจของ Bolas ได้สำเร็จ… เพียงเพราะมันต้องการให้เขาเข้าไป… เพื่อที่จะทำลายจิตของ Jace ที่ติดอยู่ภายใน
    Jace แทบเสียสติ เขา Planeswalk หนีไปอย่างไร้ทิศทาง


Nicol Bolas: ข้าคิดว่าเจ้าจะเก่งกว่านี้นะ Jace

 

  • ฝูงผีดิบของ Liliana ไม่ทันจะได้ทำอะไร Bolas ก็สื่อสารกับเธอ และเสนอข้อแลกเปลี่ยนด้วยคำขู่ที่จะยึดพลังที่มัน "จัดหา" มาครั้งหลัง Mendnig และนั่นจะไม่ทำให้เธอต้องแก่ และตายไปจากอายุกว่า 4,000 ปี ของตัวเธอเอง… Liliana ต้องรับข้อตกลงนั้น และชวนสมาชิกในทีมให้หนีไปกับเธอ แต่ก็ไม่มีใครทำตาม... เธอจึงหนีไปก่อนที่จะได้ปะทะกับ Bolas เสียอีก


Nicol Bolas: พลังอำนาจที่เจ้าเคยมี ข้าสามารถริบมันคืนได้ทันทีนะ Liliana
 

 

  • ไฟของ Chandra ที่ไม่แม้แต่จะระคายผิวของ Bolas... มันไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ แค่เพียงมันคว้าตัวเธอมา แล้วบีบร่างในอุ้งมือเบาๆ ก็ทำให้กระดูกของเธอหักไปหลายซี่… ก่อนที่จะบอกกับเธอว่า “อย่าได้คิดใช้ไฟไปเผามังกรอีกล่ะ” 


Nicol Bolas: เจ้าใช้เป็นแต่ไฟหรือไง Chandra?

 

Chandra ได้จังหวะ เธอจึงรีบ Planeswalk หนีออกมา ก่อนที่จะต้องทิ้งชีวิตของเธอไว้ตรงนั้น

 

  • Nissa ผู้มีความสามารถในการดึงพลังจากแผ่นดินขึ้นมาใช้ เธอสร้างสัตว์ธาตุดินขึ้นมาจาก Plane ของ Amonkhet… ดินที่เต็มไปด้วยการแปดเปื้อนจากความตายของ Plane ที่ Bolas ได้สร้างไว้ มันใช้เวทย์มนต์แห่งความตายเข้าควบคุมสัตว์ธาตุที่ปนเปื้อนไปด้วยความตาย เข้าโจมตี Nissa ผู้สร้างสัตว์ธาตุแห่งความตายขึ้นมาเอง 


Nicol Bolas: จิตวิญญาณของโลกใบนี้ได้ตายไปแล้ว Nissa
 

Nissa ที่เป็น Elf ตัวเล็กๆ ไม่สามารถต่อกรกับสัตว์ธาตุของเธอเองได้ ทำให้เธอต้องหนีไปจาก Amonkhet

 

  • Gideon ถูกเหวี่ยงไปมาตลอดการต่อสู้ ทั้งๆ ที่ Nicol Bolas ทำเพียงแค่การสบัดหางของมันเท่านั้น… แม้ว่า Gideon จะมีความสามารถในการเป็นอมตะ แต่การที่เขาถูกโยนไปมาเหมือนกับของเล่น เขาก็ไม่ต่างจากตุ๊กตาที่ไม่ได้ทำอะไรในการต่อสู้ครั้งนี้เลย 

เขาได้โอกาสกลับเข้าโจมตี Bolas ในช่วงจังหวะที่เพื่อนในทีมของเขาหนีไปหมดแล้ว แต่ก็โดนคว้าไว้โดย Bolas และมันก็แสดงพลังของเทพเจ้ามังกร…

Bolas ใช้เวทย์มนต์กับกรงเล็บของมัน และแทงทะลุร่างของ Gideon… ผู้ที่ไม่ควรจะได้รับความเสียหายใดๆ จากการต่อสู้เลย


Nicol Bolas: ไยเจ้าคิดจะปกป้องผู้อื่น... ทั้งๆ ที่เจ้ายังปกป้องตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ Gideon

 

Gideon ได้รับตัวเลือกจาก Bolas “จะอยู่ที่นี่ แล้วตายคากรงเล็บ หรือจะให้ข้าไว้ชีวิต แต่เจ้าต้องหักหลัง Gatewatch”...
Gideon ไม่ได้ตอบ แต่ Planeswalk หนีไปได้อย่างฉิวเฉียด

 

หลังจากจบศึกที่ Amonkhet ทางด้าน Tezzeret ที่ตอนนี้ได้ Planar bridge อุปกรณ์เดินทางข้ามมิติมาแล้ว ก็ได้รับคำสั่งให้ไปรับเอา Immortal sun จาก Vraska ที่ Ixalan มาอีกชิ้น

 

- ศึกสุดท้ายในชีวิต -

ที่ Ravnica นั้น Bolas ได้วางแผนส่งคนของตัวเองเข้าไปแทรกซึมตามกิลด์ต่างๆ ใน plane ไว้แล้ว เพื่อเริ่มแผนเก็บเกี่ยว Spark จาก Planeswalker ตนอื่นๆ มาเป็นของตัวเอง และหวังว่าจะได้พลังระดับเทพเจ้าที่มันเคยมีในสมัยก่อน Mending กลับมา

แต่ทว่า แผนของมันก็ไม่สำเร็จ ทั้งจากการหักหลังของเหล่าสมุนที่เคยรับใช้มันด้วยความหวาดกลัว, พันธสัญญาปีศาจ และการร่วมมือกันของ Planeswalker คนอื่นๆ

 

Liliana ได้ควบคุมเหล่าผีดิบทั้งหมดเข้าโจมตี Bolas รวมถึงเหล่าเทพจาก Amonkhet ที่ถูกแปลงเป็นผีดิบด้วย

Sarkhan ร่วมมือกับ Ugin และ Niv Mizzet เพื่อโจมตี Bolas ด้วยร่างที่ใหม่ทรงพลังของ Niv Mizzet


Niv Mizzet กับการรวมพลังเข้ากับ Plane
 

ในท้ายที่สุด Bontu ที่เป็นผีดิบ และถูก Liliana ควบคุม ก็เข้าโจมตีจุดบอดของ Bolas และดึงพลัง Spark ที่ Bolas สะสมไว้ ออกมาจนตัว Bontu เองระเบิด และทำให้ Bolas สูญเสียพลังแทบทั้งหมดของมันไป…

 

ในตอนนี้ Ugin ก็มารับตัว Bolas ไปไว้ที่ Mediation Realm เพื่อไปกักขังไว้จากการรบกวนจากสมุนของ Bolas และป้องกันไม่ให้มันหาวิธีหนีจากความตายที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ร้อยปี... ไปตลอดกาล

 

ก็จบกันไปสำหรับเรื่องราวของ Nicol Bolas มหามังกรโบราณที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นตัวร้ายตลอดกาลของจักรวาล Magic the Gathering 

ถึงแม้ว่าในตอนนี้เรื่องราวของมันจะคลายปม และดูเหมือนจะจบอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่เราก็ยังคงมีตัวละครอื่นๆ ที่ควรค่าแก่การให้ลุ้นขึ้นมาเป็นตัวร้ายตลอดกาล ในเรื่องราวชุดใหม่ๆ แทนตัว Nicol Bolas ในเนื้อเรื่องของจักรวาล Magic the Gathering ต่อๆ ไปครับ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และทุกๆ การติดตามครับ