NAHIRI

"Zendikar เจ็บปวดมามากแล้ว... ถึงคราที่ฉันจะให้มันได้รับความสงบเสียที"

 

Nahiri เป็น Planeswalker ที่มีสีประจำตัวคือสีขาว แต่เรื่องราวต่างๆ ที่เธอพบเจอมา ทำให้เธอเข้าถึงมานาสีแดงได้ในภายหลัง

 

- วัยเยาว์ -

เนื้อหาในส่วนนี้ ไม่ปรากฏรายละเอียดมากนัก นอกจากเธอเป็น Planeswalker เชื้อสาย Kor ที่มีอายุยาวนาน ว่ากันว่าเธอเป็น Kor ที่อยู่มาก่อนช่วง Mending เสียอีก

โดยชาว Kor เองนั้น ถ้าหากอิงตามเนื้อเรื่องของเกม จะเป็นชนเผ่าที่มีจุดกำเนิดอยู่ที่ Zendikar โดยรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์ โดยที่มีข้อแตกต่างคือ ชนเผ่า Kor จะมีสีผิวอมฟ้า หรือสีขาวเผือก และเส้นผมสีขาวโพลน

ถ้าหากเป็น Kor เพศชาย จะมีหนวดคล้ายปลาหมึกงอกออกมาจากคางแทนหนวดเคราปกติ

 


Kor เพศชาย กับหนวดปลาอันเป็นเอกลักษณ์

 

แต่ Kor ตามเกมเพลย์ของ Magic The Gathering ต้องย้อนไปสมัยยุค Tempest เลย ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของลูกเรือยานบิน Weatherlight อาธิเช่น Gerrard Capashen, Sisay เป็นต้น

โดยในยุคนั้นจะอ้างอิงจากชนเผ่า en-Kor และ il-Kor ที่ว่ากันว่า เป็นสายตระกูลที่พัฒนามาจาก Metathran หรือโครงการสร้างสุดยอดมนุษย์ของ Urza

โดยพวกเขาถูกจับตัวไปจากที่ใดก็ไม่ทราบได้ โดย Volrath ผู้นำดาว Rath และว่ากันว่า ทำให้ชนเผ่า Kor ที่เชื่อว่ามาจากการสังเคราะห์ขึ้นมาเหมือนกัน Metathran กลายเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของที่ Rath ไป

 

แต่เรื่องนั้นก็ไม่ใช่สาระสำคัญครับ กลับมาที่เรื่องราวของ Nahiri กันดีกว่า

นอกจากเธอจะเป็นชนเผ่า Kor แล้ว เธอยังมีความสามารถพิเศษในการควบคุมหินต่างๆ ได้ดั่งใจ ไม่เพียงบังคับให้เคลื่อนไหว แต่เธอยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างของมันได้อีกด้วย

ในช่วงแรกที่เธอได้รับ Spark มา เธอก็ได้พบกับ Sorin Markov ผู้ที่เป็น Vampire และ Planeswalker จาก Innistrad

 

- ผจญภัย และการเล่าเรียน -

สิ่งที่ดูไปไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ทั้ง Sorin และ Nahiri สามารถผูกมิตรกันและกันได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ Nahiri ยังพึ่งได้รับ Spark

ทาง Sorin จึงเป็นเสมือนครูคนแรก เขาสอนเธอถึงทั้งเรื่องราวแห่ง Multiverse และการใช้พลังของเธอ

 

กระนั้น การผจญภัยของทั้งคู่ ก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่าง... บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดจากประสบการณ์ของทั้งคู่... แม้ Sorin จะมีอายุมากกว่า Nahiri ราวๆ พันปีก็ตาม

 


Sorin Markov, Vampire ผู้ดูแล Nahiri

 

ภาพที่พวกเขาได้เห็นคือสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ ส่วนหัวของมันหุ้มด้วยเกราะที่คล้ายกับกะโหลก แต่ไม่มีช่องสำหรับดวงตา

มันมีส่วนที่คล้ายๆ แขนสี่ข้าง ร่างกายท่อนล่างมีรยางค์มากมาย คอยขับเคลื่อนร่างกาย

เส้นทางที่มันผ่าน ต่างเต็มไปด้วยเศษซากแห่งความตาย อินทรีย์สารใดๆ ถูกสูบกลืนพลังไปจนเหลือเพียงขี้เถ้าสีขาว

 

ทั้งคู่พบเข้ากับ Eldrazi Titan ตัวแรก... เจ้าแห่งการทำลายล้าง Ulamog

 


Ulamog เจ้าแห่งการทำลายล้าง

 

ภายหลัง ทั้ง Nahiri และ Sorin ได้พบกับ Ugin มังกรวิญญาณที่มีความรู้มากพอ และเชื่อว่าพวกเขาทั้ง 3 จะต้องหยุดยั้งภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นจาก Eldrazi Titan

 

- ทีมต่อต้านภัยร้ายผู้มาก่อนกาล -

ทั้งสามคน ก่อตั้งทีมเฉพาะกิจที่มีชื่อง่ายๆ ว่า The Three

โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดการกับ Eldrazi Titan

โดย Ugin ผู้มีความรู้มากที่สุดในทีม เสนอวิธีการผนึกเอาไว้ที่ดาวดวงใดก็ได้ เพราะสิ่งมิชีวิตเหล่านี้ ถ้าหากถูกกำจัดไป อาจจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์อื่นๆ ได้เช่นกัน

ทั้งสามเห็นตรงกันดังนั้น และเลือกดาวอย่าง Zendikar เนื่องจากความหลากหลาย และความเปี่ยมล้นของพลังงานมานาในดาว จะเป็นเหยื่อล่อที่ดีสำหรับ Eldrazi สุดกระหาย

และอีกข้อก็คือ พวกเขาจะมี Nahiri ที่สามารถดูแลดวงดาว Zendikar อันเป็นบ้านเกิดของเธอได้ต่อไป

 


The Three ผู้ปกป้องภัย Eldrazi

 

ซึ่งแผนของทั้งสามก็เป็นไปได้ด้วยดี เพียงแต่ว่า... ร่างของ Eldrazi Titan ที่ Sorin เป็นคนจัดการล่อมา มีถึง 3 ตน

 

เมื่อทั้ง 3 ร่าง Eldrazi Titan เข้ามาถึงเขตเทือกเขา Akoum ของ Zendikar ศิลาแห่งการผนึกพลังของ Nahiri ก็เริ่มทำงานทันที พวก Eldrazi ไม่สามารถออกไปจาก Zendikar ได้

 

ทาง Ugin ก็เริ่มใช้เวทย์มนต์ของตัวเองเพื่อเสริมพลังในการผนึกเหล่า Eldrazi Titan ทั้งสามลงไปในดวงดาว

 

และแผนทั้งหมดก็ประสบความสำเร็จ โดยในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการเปิดผนึกโดยไม่ได้ตั้งใจ Ugin จึงปิดผนึกด้วยการวางรหัสขั้นสุดท้าย
 

ผนึกศิลา Hedron จะปลดล็อกก็ต่อเมื่อมี Spark ของ Planeswalker 3 คน

มีการใช้ไฟแห่งวิญญาณ อันเป็นไฟที่มองไม่เห็น และมีเพียง Ugin ที่ใช้ได้
 

ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกเรียกว่า Eye of Ugin

ก่อนที่ทั้ง Sorin และ Ugin จะแยกย้ายกลับไปที่ Plane ของตนเอง

 

- ภัยครั้งใหม่ -

ด้วยความหลากหลาย และอุดมสมบูรณ์ของมานาที่ Zendikar จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีผู้คน (และอาจจะไม่ใช่) เข้ามาที่นี่ เพื่อนำพลังเหล่านั้นไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

 

หนึ่งในนั้นคือจอมปีศาจ Ob Nixilis ที่มองหามานามาเพื่อล้างคำสาปที่ตนเองต้องกลายเป็นปีศาจจากความผิดพลาดของตนเอง

แต่เมื่อเจอกับ Nahiri มันก็ต้องโดนเธอผนึกศิลา Hedron เข้าไปกลางหน้าผาก และสูญสิ้นพลังในฐานะจอมปีศาจ... และฐานะ Planeswalker

ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงปีศาจเดินดินที่บินไม่ได้ และติดอยู่ที่นี่...

 


Ob Nixilis กับศิลา Hedron กลางหน้าผากของมัน

 

หลังจากนั้น เหตุการณ์ต่างๆ ก็เป็นไปได้ด้วยดี Nahiri ก็คอยสอนลูกหลานรุ่นใหม่ๆ ถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งวิชาการควบคุมหิน หรือที่เรียกว่า Lithomancy และเรื่องการผนึก Eldrazi Titan ทั้งสามไว้ที่ Zendikar

อนิจจัง ด้วยความที่เธอมีอายุมากมาย และเริ่มเบื่อกับการเป็นผู้นำ เธอจึงเลือกที่จะเข้าศีลสมาธิ และห่างหายไปจากแวดวงตระกูล Kor ของเธอ

 

เวลาผ่านไปเนิ่นนานไม่รู้เท่าใด แต่ตอนนี้ ณ เทือกเขา Akoum
บรรดา Vampire อันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ดีๆ ก็มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และอาศัยอยู่บริเวณนั้น เริ่มทำพิธีกรรมอะไรบางอย่างจากความคุ้มคลั่งของพวกเขา

 

พิธีกรรมเพื่อบูชาเทพทั้งสามของ Kor...

Talib, Kamsa และ Mangeni

ที่เป็นเทพทั้งสามของ Merfolk เช่นกัน

Cosi, Emeria และ Ula

 

KozilekEmrakulUlamog... เหล่า Eldrazi Titan ทั้งสาม ที่มาจากคำสอนของ Nahiri ได้ถูกบิดเบือนไปจนสิ้น

บัดนี้พวกมันกลายเป็นเทพของ Zendikar ไปเสียแล้ว

 


รูปเคารพเทพทั้งสาม...

 

จากพิธีกรรมที่เหล่า Vampire ดำเนินการ มันส่งผลให้ผนึกของ The Three คลายตัวลง และเหล่า Eldrazi Brood อันเป็นลูกหลานของ Eldrazi Titan ได้ออกมาสู่โลกของ Zendikar อีกครั้ง

 

Nahiri จึงต้องกลับมาจัดการปัญญา Eldrazi อีกครั้ง

เธอส่งสัญญาณเรียกทั้ง Sorin และ Ugin เพื่อขอความช่วยเหลือจาก The Three อีกครั้ง

แต่ในครั้งนี้ Sorin และ Ugin ไม่ตอบรับสัญญาณขอความช่วยเหลือของเธอ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา Nahiri สามารถผนึกเหล่า Eldrazi ได้ด้วยตัวของเธอเอง

 

กระนั้น การกระทำของทั้ง Ugin และ Sorin ก็ทำให้ Nahiri ต้องการคำตอบจากปากของพวกเขา เธอจึงออกเดินทางไปยัง Innistrad... บ้านเกิดของ Sorin

 

- ความจริง ความแค้น -

เมื่อไปถึง Innistrad เธอก็ถาม Sorin ด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างเต็มที่

ทางด้าน Sorin ก็ตอบไปตามความจริง ด้วยความที่ตอนนี้ เขาได้ทำที่กักขังสิ่งเหนือธรรมชาติอย่าง Helvault เอาไว้ และนั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่มันจะดูดซับสัญญาณการสื่อสารจาก Nahiri...

 

และนั่น ก็เป็นคำตอบที่ Nahiri มองว่า “ปัญญาอ่อน” สิ้นดี

เธอรับไม่ได้กับคำตอบนั้น และต่อว่า Sorin แบบถอนหงอก

 

Sorin เองก็หัวเสีย และเจ็บปวดหัวใจกับการที่ลูกศิษย์ที่เขามองเป็นเหมือนลูกสาว มาต่อว่าด้วยถ้อยคำที่เจ็บช้ำน้ำใจขนาดนี้

เขาลำเลิกบุญคุณถึงการเป็นครูผู้สอนหนทางแห่งการเป็น Planeswalker และไล่ Nahiri ให้ไปหา Ugin เสียดีกว่า

 


Helvault สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และที่คุมขัง

เหตุการณ์ยิ่งบานปลายเข้าไปใหญ่ Nahiri เห็นว่านี่คือการแตกหักความเป็นพ่อลูกของเธอ เธอเข้าโจมตี Sorin แต่ก่อนจะเข้าถึงตัวเขา ฉับพลันก็มีนางฟ้าโฉบเข้ามาขวางเอาไว้

 

Avacyn นางฟ้าแห่ง Innistrad ที่เข้ามาเพื่อปกป้องผู้สร้างอย่าง Sorin ได้ขัดขวาง Nahiri

 

และด้วยระดับความเป็นภัยของ Nahiri ถ้าหากปล่อยให้ Avacyn โจมตีไปเรื่อยๆ มีหวัง Nahiri ได้จบชีวิต จากการโจมตีเพื่อหวังผลของ Avacyn แน่ๆ

Sorin จึงตัดสินใจกักขัง Nahiri ไว้ใน Helvault ก่อนที่เรื่องราวจะยุ่งยากไปมากกว่านั้น...

 

- ที่คุมขังแตกสลาย -

เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน Nahiri ยังคงถูกคุมขังอยู่ในคุกศิลา... ช่างน่าขันที่แม้เธอจะเป็นผู้ชำนาญในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของหิน แต่เมื่อเป็น Helvault อันเป็นคุกของ Sorin เธอกลับไม่สามารถทำลายมันได้

อาจจะเป็นเพราะมันเป็นหินที่ผสมกับเงินจากดวงจันทร์ของ Innistrad ก็เป็นได้

 

ในช่วงเวลาที่เธอติดอยู่ที่นี่ ที่บ้านเกิดของเธออย่าง Zendikar บรรดา Eldrazi Brood ก็ออกมาได้อีกครั้ง

ตัวของ Sorin เอง ต้องการจะกลับไปตั้งทีม The Three อีกครั้ง แต่ก็พบว่า เขาไม่สามารถนำ Nahiri ออกมาจาก Helvault โดยที่ไม่ทำลายมันลงได้... และการทำลาย Helvault ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะมันไม่เพียงคุมขัง Nahiri แต่ยังรวมถึงสิ่งชั่วร้ายอื่นๆ อีกมากมาย

Sorin จึงเดินทางไปตามหา Ugin... ก่อนที่จะพบว่า Ugin ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว... และงานนี้ Sorin ก็ต้องฉายเดี่ยว

 

ในตอนนี้ Sorin จะเดินทางไปที่ Zendikar และพบเจอกับ Nissa Revane อีกหนึ่ง Planeswalker ที่เราพึ่งเขียนเรื่องราวของเธอไป ซึ่งการตัดสินใจของ Nissa ทำให้ปัญหา Eldrazi กลายเป็นปัญหา Eldrazi Titan แทน

เพราะเธอดันไปปลดปล่อย Ulamog เจ้าแห่งการทำลายล้างออกมา ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าปล่อยมันออกมา มันก็จะไปจากที่นี่...

 


Sorin และ Nissa กับการป้องกันภัยจาก Eldrazi

 

Innistrad อีกหนึ่ง Planeswalker อย่าง Liliana Vess กำลังทำภารกิจใช้หนี้กรรมสัญญาทาส จากพันธสัญญากับปีศาจ

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปีศาจที่มีชื่อว่า Griselbrand... ตอนนี้มันอยู่ที่ Innistrad... ภายใน Helvault...

 

และสิ่งที่ Liliana ทำได้คือ บังคับให้ Helvault ถูกเปิดออก... แน่นอนว่าก็เป็นไปตามที่ Sorin ผู้สร้างเคยบอกไว้... มันเปิดไม่ได้ ถ้าไม่ทำลายมันลง

คุก Helvault ถูกทำลาย และระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ทันที สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายหลั่งไหลออกมา... และรวมถึง Nahiri กับเวลาที่ผ่านไปกว่า 6000 ปี แล้ว เธอต้องกลับไปที่ Zendikar บ้านเกิดของเธอ

 

เมื่อ Nahiri มาถึงที่ Zendikar เธอก็กับเศษซากการทำลายล้างของ Ulamog... บ้านเกิดที่เคยสวยงามของเธอตอนนี้กลายเป็นดาวแห่งความตายไปแล้ว...

“ทุกอย่างเป็นเพราะ Sorin”
นี่คือความคิดของ Nahiri... และสิ่งที่เธอทำได้ คือให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการถูก Eldrazi ทำลายดาวบ้านเกิด... เธอจะส่ง Eldrazi ไปที่ Innistrad เอง...

 

Nahiri กลับไปที่ Innistrad เพื่อเผชิญหน้ากับ Sorin อีกครั้ง เธอไปที่คฤหาสน์ของตระกูล Markov แต่ก็ไม่พบ Sorin

เธอจัดการขัง Vampire ทุกตนที่อยู่ในคฤหาสน์ไว้ในเสาหิน แทนที่เสา และเพดานของเดิมด้วยไปหน้าอันเจ็บปวดของเหล่า Vampire

ความโกรธแค้นของเธอผลักดันให้เธอทำมากกว่านั้น เธอเริ่มบิดเบือนเส้นสายมานาหรือ Leyline ของ Innistrad เพื่อนำมันไปที่ Drownyard Temple

เธอใช้ศิลาที่มีรูปร่างแปลกๆ และมันถูกเรียกว่า Cryptolith... ที่ตอนนี้เริ่มแสดงผลของมันแล้ว...

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายใน Innistrad เริ่มกลายร่างไปเป็นสิ่งที่วิปริตยิ่งกว่า มันไม่ใช่ทั้งผีดิบ Vampire หรือมนุษย์หมาป่าที่ชาว Innistrad คุ้นเคยอีกแล้ว

 


ศิลา Crytolith และจุดศูนย์กลางของมานา

 

กระนั้น การที่คุก Helvault ถูกทำลายลง อีกหนึ่งสิ่งที่หายไปก็คือ Avacyn นางฟ้าของ Innistrad ที่สละตัวเองกักขังไปพร้อมๆ กับ Griselbrand ก็ได้กลับออกมาเพื่อปกป้องประชาชนของ Innistrad อีกครั้ง

แต่ Leyline ที่บิดเบือนไป กับบางสิ่งที่กำลังจะมา มันทำให้ Avacyn เกรี้ยวกราด และระมักระวังจนเข้าขั้นวิตกจริต เธอพร้อมที่จะทำลายทุกๆ อย่างที่ผิดปกติ ซึ่งรวมถึง Planeswalker ที่อยากจะเข้ามาแก้ปัญหาที่ Nahiri ทำไว้

จนกระทั่ง Sorin กลับมา และพบว่า Avacyn ของเขาเปลี่ยนไป และไม่ยอมฟังคำสั่งของเขา เขาคือไม่มีทางเลือก นอกจากทำให้เธอหายไป... สิทธิพิเศษที่มีเพียง Sorin ผู้สร้างเท่านั้น ที่จะทำมันได้...

แต่ทันทีที่ Avacyn ถูกทำให้สลายไป... อีกสิ่งหนึ่งที่รออยู่มันก็ปรากฏกายทันที... ร่างขนาดมหึมาพร้อมกับระยางค์มหาศาลลอยขึ้นเหนือ Downyard Temple...

 

Emrakul เจ้าแห่งความวิปริตได้ถูกดึงดูให้มาที่ Innistrad แล้ว และมันก็เป็นต้นเหตุของการกลายพันธุ์ของทุกๆ สิ่งมีชีวิตที่นี่... มันเพียงแค่รอโอกาสที่ Avacyn ผู้ปกป้องจะหายไปจากที่นี่เท่านั้น

Sorin เองต้องปกป้องดาวของเขาก่อนที่มันจะถูก Emrakul กลืนกินไปทั้งหมด แต่ทว่า... เขาก็ต้องพบกับบุคคลที่รอคอยเขาด้วยความเคียดแค้น...

 

Nahiri เธอรอเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของ Markov... คฤหาสน์ที่ภาพฉากหลังเป็นบรรดา Vampire ในตระกูลของ Markov ถูกฝังร่างอยู่ในเสาหินและผนัง...

Sorin ต้องจบเรื่องนี้ลงเสียที ก่อนที่ Nahiri จะคุ้มคลั่งไปมากกว่านี้ เขาตัดสินใจที่จะจบชีวิตลูกสาวของเขาลง...

 


Sorin กับญาติของเขาที่ถูกฝังทั้งเป็น

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็น Sorin ที่พลาดท่า และโดนฝังเข้าไปในเสาหิน ไม่ต่างจากญาติๆ ตระกูล Markov ของเขา

กระนั้น ทาง Nahiri เองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่เธอทำภารกิจของเธอลุล่วงแล้ว เธอจึง Planeswalk ออกไปจาก Innistrad พร้อมกับทิ้งปัญหา Emrakul ไว้ที่นี้

 

- Reunion ท่ามกลางสงคราม -

Ravnica สถานที่ที่ Nicol Bolas มังกรบ้าอำนาจ กำลังดำเนินการส่งสํญญาณล่อลวงให้ Planeswalker จากทั่วทุกสารทิศมารวมกันที่นี่ และดูดเอาพลัง Spark ของพวกเขามาเป็นของตนเอง

ตัวของ Nahiri เองก็ได้รับสัญญาณนั้นเช่นกัน และเธอก็เข้ามาที่ Ravnica ก่อนที่เธอจะพบว่า... เธอไม่สามารถ Planeswalk ออกไปจากที่นี่ได้ และเธอก็ต้องพบกับคนที่เธอไม่คาดคิด...

 

Sorin Markov

 

ทั้งคู่ไม่แม้แต่จะพูดคุย แต่เข้าโรมรันกันทันที

ท่ามกลางเปลวเพลิง และควันไฟของสงครามเป็นฉากหลัง แต่ดูเหมือนภัยพิบัติระดับจักรวาลจะไม่สามารถหยุดความแค้นที่ทั้งสองมีต่อกันได้

แต่ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อไปนานเท่าใด ก็ดูเหมือนไม่สามารถหาผู้ชนะได้ ทั้งคู่จึงสงบศึกชั่วคราว... เหมือนทั้งคู่จะรับรู้ถึงสิ่งที่โลกภายนอกกำลังเผชิญอยู่แล้ว...

ทั้งคู่ร่วมมือกับบรรดา Planeswalker คนอื่นๆ เพื่อกำจัดกองทัพผีดิบ Dreadhorde และ Nicol Bolas

 


Sorin Vs. Nahiri

 

และเมื่อสงครามจบลง เรื่องราวของ Nahiri กับ Sorin ก็ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ให้เรานำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังได้อีก นอกจากทั้งคู่จะรอดชีวิตจากสงครามเท่านั้นเอง

และ Nahiri เอง ในตอนนี้เธอก็กำลังดำเนินเนื้อเรื่องของตนเองในการ์ดชุดใหม่อย่าง Zendikar Rising ซึ่งเราจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันอีกครั้งอย่างแน่นอน

 

สำหรับในตอนนี้ เรื่องราวของ Nahiri ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ขอขอบคุณทุกๆ การติดตาม และกำลังใจที่มีให้กันครับ