- อัครอภิมหาตำนานแห่งมหาเทพ Tibalt -
อ่าห์... กลิ่นของน้ำมันดินเดือดๆ และไออุ่นจากการจุมพิตของภูเขาไฟข้างๆ ช่างแสนสุขใจ
หลังจากต้องมาทนเหน็บหนาวกับอากาศหนาวเหน็บข้างนอกนั่น การมาอยู่ที่นี่ เหมือนกับได้กลับมาอยู่บ้านเลยแฮะ...
แล้วเหตุไหน ไฉนเลย ทุกๆ ที่ใน Kaldheim ถึงไม่เป็นดั่งอาณาจักร Immersturm
ถ้าพวกเจ้าถามข้า... ณ Kaldheim แห่งนี้ มันขาดเปลวเพลิงอีกนิด ความวายป่วงอีกหน่อย... ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปดั่งที่ข้าวางแผนแล้วล่ะก็... มันก็จะกลายเป็นดาวที่น่าอยู่ไม่น้อย
ราวๆ เดือนหนึ่งที่ผ่านมา ภาระอันแสนสาหัสที่ข้าต้องเผชิญ ก็ยังคงดำเนิน และเป็นไปตามที่ข้าวางแผนไว้แหละนะ
ข้ามักจะนอนไม่หลับเสมอ... เพราะติดอยู่กับความคิดหนึ่งที่คอยรบกวนจิตใจข้าทุกๆ คืน... ถ้าโลกใบนี้มันโชติช่วงไปด้วยเปลวไฟ แต่ไม่มีใครรู้ว่าไม้ขีดก้านแรกมันมาจากไหน แล้วมันจะเป็นยังไงหนอ?
ดาวดวงนี้มันก็มีแต่คนโม้ฟุ้งฝอยเต็มไปหมด... เห้อ... ข้าล่ะแสนจะเหนื่อยใจกับเรื่องราวที่คนเล่านั้นเล่ากันปากต่อปาก... ตำนานจากรุ่นสู่รุ่น... เหอะ มันก็มีแต่เรื่องเดิมๆ คนดีปะทะคนชั่ว วีรบุรุษปะทะจอมวายร้าย...
ข้าว่ามันคงถึงเวลาสำหรับตำนานบทใหม่... ที่ตอนจบใครๆ ก็ต้องสรรเสริญถึงความยอดเยี่ยมของมัน
- Tibalt นั่งนึกทบทวนความคิด และเรื่องราวที่ผ่านมา... มันเลือกที่จะพักผ่อนที่ดินแดนแห่ง Immersturm และมันก็เริ่มสานต่อตำนานของมันทันที -
มันก็คงจะต้องเริ่มต้น ด้วยเรื่องราวของ Planeswalker นามว่า Tibalt ผู้ที่ไม่เพียงทรงพลังและทรงปัญญา เขายังเป็นอัจฉริยะผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ตามคำบอกเล่าของเหล่าผู้คนที่ได้พบเจอกับเขา
กระนั้นบรรดาศัตรูคู่อาฆาตที่อิจฉาความสุดยอดของข้า... มหาเทพ Tibalt ก็ทำให้ข้าต้องออกผจญภัยไปเรื่อยๆ... จนมาถึงที่นี่ ที่ Kaldheim... และนั่น ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ข้าได้พบกับอสูรกายอีกตน
เจ้าอสูรกายหน้าโง่มันรับรู้ได้เลย ว่าข้าเองนั้น แสนจะอัจฉริยะ และมีความสามารถอันล้นเหลือ มันจึงเรียกหาให้ข้ามาช่วยเหลือมัน...
แต่โดยทั่วไปแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นเพื่อนกับอสูรกายตนไหนง่ายๆ หรอกนะ แต่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็เล่นสกปรก มันฝังอะไรบางอย่างเข้าที่ตัวข้า... มันถูกเรียกว่าเมล็ดพันธุ์ และข้อตกลงที่ข้าจำใจต้องทำกับอสูรกายตนนั้นคือการเบี่ยงเบนความสนใจ...
มันช่างโง่เขลา และรู้เท่าไม่ถึงการณ์... ข้าวางแผนที่จะมาสร้างความบันเทิงที่ Kaldheim อยู่แล้ว... สัญญากับสัตว์ประหลาดตัวนั้น มันก็แค่ผลพลอยได้ จากสิ่งที่ข้าตั้งใจจะทำอยู่แล้ว
เอาล่ะ... ก่อนจะสร้างความบันเทิง แผนของข้าต้องการความน่าเชื่อถือเสียก่อน... Planeswalker จากดาวดวงอื่น ย่อมไม่เป็นที่น่าไว้วางใจจากประชาชนของ Kaldheim อยู่แล้วล่ะ ดังนั้นข้าต้องหาคนที่น่าใว้วางใจ...
ข้าบังเอิญได้พบกับเทพ Valki ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งความลวง... แต่ทว่า เพียงความฉลาดเฉลียวเศษเสี้ยวเดียวของข้า
ข้าก็สามารถหลอกล่อให้ Valki ไปติดอยู่ในคุกน้ำแข็งอันหนาวเหน็บที่อาณาจักร Karfell... ช่างน่าขัน... เทพแห่งความลวงกลับถูกหลอกเสียเอง
และคุกที่นี่ก็ง่ายแสนง่าย ที่ใครซักคนจะติดสินบน... เพียงข้าโฆษณาถึงเหตุการณ์แห่ง Doomskar และให้สัญญากับพ่อผีดิบ Narfi หนวดยาว ให้มันและกองทัพผีดิบใต้ปกครองได้สิทธิ์ในการเก็บสมบัติจากอาณาจักรอื่นๆ ก่อนใครเพื่อน!
และเพียงคำสัญญาง่ายๆ แค่นั้น ก็เพียงพอที่จะให้พวกผีดิบยอมขังเทพไว้ในคุก และเริ่มเตรียมกองทัพของพวกมันเพื่อปล้นสมบัติจากอาณาจักรอื่นๆ
Valki, God of lies
และเมื่อไม่มีเทพแห่งความลวงอย่าง Valki มันก็ถึงเวลาที่ข้าเองจะได้ความน่าเชื่อถือมาครอง
ข้าปลอมแปลงตัวตนให้กลายเป็นเทพแห่งความลวง และออกเดินทางไปหา Koll นักตีดาบคนแคระผู้เก่งกาจกว่าบรรดาคนแคระที่เหลือ...
ที่ข้าต้องมาหา Koll ก็เพราะเจ้านี้คงเป็นคนเดียวที่สามารถจะสร้างอาวุธจาก Tyrite วัสดุที่มาจากยางของ World Tree... และตอนนี้ มันก็กำลังตีดาบให้กับเทพอีกองค์ อย่าง Halvar เทพแห่งสงคราม... เทพบ้ากล้ามไร้สมอง เทพประเภทที่ต้องมีทุกที่ ไม่รู้ทำไม?
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ไอ่ดาบเล่มนี้ ถ้ามันเป็นไปตามที่ข้าคิด มันจะเปิดช่องว่างของจักรวาล และทำให้การเดินทางข้ามอาณาจักรของข้ากลายเป็นเรื่องง่ายๆ... ไม่ต้องมาเดินทางผ่านทางต้นไม้แห่งโลกให้เปลืองพลัง
และเมื่อข้าไปถึง เจ้า Koll นี่ก็ทำตัวงี่เง่า ติดกับสัญญาบุญคุณกับ Halvar บ้าบออะไรก็ไม่รู้... แต่ก็ช่างเถอะ ข้าก็สงเคราะห์ให้เจ้า Koll ได้เดินทางไปหาพระเจ้าของมัน ผ่านทางเตาเผาเหล็กที่เอาไว้ใช้รับใช้พระเจ้านั่นแหละ...
ส่วนดาบเล่มนั้น ก็ช่วยให้ข้าเดินทางข้ามอาณาจักรได้ง่ายขึ้นจริงๆ
Koll, the Forgemaster
หลังจากนั้น ก็เป็นคราของอาณาจักร Skemfar พวก Elf ที่อยู่ภายใต้การปกครองของราชาที่ทรงภูมิอย่าง Harald
แต่ปมปัญหาของเจ้าพวกนี้ ก็ทำให้ข้าทำงานง่ายขึ้นมากๆ... เพียงข้ากล่าวถึงความรุ่งเรื่องของเหล่า Einir... อดีตอันเกรียงไกรของพวก Elf ที่เคยมีสถานะระดับเทพ ก่อนที่จะโดนพวก Skoti, พวกเทพรุ่นใหม่เข้ามาแย่งชิงความยิ่งใหญ่ของพวกเขา
และแค่เป่าหูกษัตริย์ Harald ถึงความชอบธรรมในอำนาจที่พวกเขาควรจะมี พวกเขาก็พร้อมที่จะเตรียมการรบกับอาณาจักรอื่นๆ อย่างง่ายดาย
Harald, King of Skemfar
ณ Surtland ข้าก็แค่เป่าหูพวกยักษ์หวงถิ่นถึงการตื่นขึ้นของ Troll สายพันธุ์ Torga เท่านั้น พวกมันก็พร้อมจะเข้าร่วมสงคราม
ที่ Bretagard เมืองแห่งบรรดามนุษย์ปุถุชน ข้าก็เข้าถึงพวกชนเผ่า Skelle และให้สัญญาว่าจะพา Varragoth จอมปีศาจที่เคยมอบพลังให้แก่พวก Skelle กลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง
จะเหลือก็เพียงอาณาจักร Starnheim เหล่านางฟ้าที่ไม่แม้แต่จะรับคำสั่งจากพระเจ้า... ข้าจะทำอย่างไรดี...
Tibalt ถึงกับชะงักงันการตำนานที่เขากำลังเขียน...
เหล่านางฟ้า ผู้ยึดติดเพียงหน้าที่เก็บเกี่ยววิญญาณ... พวกเธอคงไม่สนใจที่จะเข้าร่วมตะลุมบอลในสงครามที่จะมาถึงแน่ๆ งั้นก็ใช้ทฤษฎีง่ายๆ เลยละกัน...
กิ่งไม้ที่ไม่ยอมงอ... มันก็ต้องหัก
แต่กับนางฟ้าทั้งอาณาจักร แม้แต่อัจฉริยะผู้ทรงพลังอย่างข้า ก็คงไม่อาจทัดทานพลังของพวกนางได้... ข้าคงต้องหาตัวช่วย...
Koma งูจักรวาล สัตว์ระดับ Cosmos... งูที่มาพร้อมกับการกำเนิดของ Kaldheim แถมในตอนนี้ มันดันโดนเหล่า Skoti ขังไว้ในพื้นที่ว่างเปล่าของจักรวาลเพื่อประปกป้องอาณาจักรต่างๆ
ความหิวโหยของมันคงเกินจะต้านทาน และถ้ามันหลุดออกมา ข้าก็มั่นใจว่ามันคงเขมือบทุกอย่างที่ขวางหน้า... ข้าล่ะสงสารเจ้างูน้อยๆ ที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็ถึงเวลาที่จะพาเธอออกมาเลื้อยเล่นแล้วล่ะ
Koma, Cosmos Serpent
- ด้วยดาบแห่งอาณาจักรที่ Tibalt ได้มาจาก Koll เขาใช้มันเพื่อนำพา Koma ส่งตรงไปยัง Starnheim... -
ข้าเองไม่ได้ศรัทธาในดาบ แต่ข้าเป็นพวกเชื่อมั่นในมีด ตะขอ และเปลวเพลิงแห่งนรกมากกว่า... แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ้ดาบเล่มนี้มันทรงพลัง และแสนจะมีประโยชน์... และในตอนนี้ มันก็กำลังจะได้ทำหน้าที่ง่ายๆ อีกอย่างหนึ่ง
- Tibalt นึกพลางใช้ปลายดาบลากไปบนพื้นดินสีดำและเต็มไปด้วยเถ้าถ่าน... -
- เพื่อทิ้งร่องรอยไว้ให้ Planeswalker ที่กำลังตามล่าเขา ให้เธอหลงมาที่นี่ -
แม้ว่าตอนท้ายของ "อัครอภิมหาตำนานแห่งมหาเทพ Tibalt" ยังคงเว้นว่างเอาไว้ แต่ข้าก็อยากจะเล่าตอนจบของเรื่องราวอันแสนสุดยอดของข้าให้พวกเจ้าได้รับรู้
Tibalt คนนี้ จะสังหารแม่ Planeswalker คนนั้น
สิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือวิญญาณที่หลุดลอยออกจากร่างของเธอ ดาว Kaldheim จะลุกโชติช่วงไปด้วยเพลิง อาณาจักรจะหลอมรวมเป็นหนึ่ง และปะทุขึ้นดุจพลุฉลองชัยของข้า