- บทพิสูจน์ -
เสียงคำรามของ Blood Avatar กรีดแทงเข้าไปในความรู้สึกของ Will
มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์ได้เรียนรู้มาก่อนในชีวิต
เสียงคำรามแห่งความตาย และการทำลายล้าง
ท่ามกลางเสียงอันกึกก้อง
Blood Avatar ก็ค่อยๆ ดึงร่างของตัวเองออกมาจากใจกลางของหอแห่งเทพยากรณ์ราวกับมันเป็นประตูมิติที่เปิดเรียกพลังแห่งการทำลายล้างก็ไม่ปาน
“ข้าเชื่อมาตอลด ว่าข้ามันเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้... ข้าไม่คู่ควรที่จะเป็นหนึ่งในเหล่าเทพยากรณ์” Extus พูดพร้อมๆ กับหัวเราะในลำคอ
“มันกลายเป็นพวกแกแล้ว ไอ้พวกเทพยากรณ์ขี้แพ้ พวกแกก็แค่รูปปั้นที่ยืนดูความล่มสลาย... จากข้าผู้นี้ ที่พวกแกไม่เคยยอมรับ!”
Extus หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางชี้กราดที่รูปปั้นของเหล่าเทพยากรณ์ที่อยู่บนยอดเสาทั้งหลาย
และ Blood Avatar ก็เริ่มใช้อาวุธของมันกวาดทำลายล้างรูปปั้นเหล่านั้นทันที
Will พยุงให้ Rowan ลุกขึ้นยืน หลังจากที่ทั้งคู่โดนซัดจนกระเด็นจากพลังของ Extus ไปก่อนหน้านี้
“มหาวิทยาลัยได้ล่มสลายแน่” Will พูดขึ้นมา แม้เขาจะพยายามข่มความกลัว และกังวล แต่มันก็ไม่สามารถปดปิดความรู้สึกที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงของเขาได้
ทว่า เมื่อเขาหันไปหา Rowan แววตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอปราศจากซึ่งความกลัวแบบที่เขามี
วินาทีนั้นเอง ที่ Will ได้เข้าใจน้องสาวของเขาอย่างถ่องแท้...
นี่คือสิ่งที่เธอเป็น... มันคือความสามารถพิเศษของเธอ...
การพุ่งเข้าชนกับปัญหา
“มันไม่ล่มสลายหรอก ถ้าเราช่วยกันหยุดมันได้!” Rowan พูดขึ้น และ Will ก็พยักหน้ารับ
- จบภารกิจ -
ในช่วงเวลาที่ Blood Avatar คำรามขึ้นมา ณ หอแห่งเทพยากรณ์
เสียงของมันก้องกังวาลไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย Strixhaven
มันบอกกับคณบดี Uvilda ที่กำลังอพยพนักศึกษาของ Prismari ให้เธอต้องเร่งมือใช้เวทย์ผนึกภัยอันตรายที่ตามมา
มันบอกให้ Plink และ Auvernine ต้องรีบหลบภัย
มันบอกให้ Lukka และ Mila ให้รู้ว่า ภารกิจของพวกเขาจบลงแล้ว...
Extus ได้สิ่งที่เขาต้องการ และคงถึงเวลาที่ Lukka จะถอนตัว
แต่ Mila ไม่ได้มองมาที่ Lukka เธอกลับมองไปที่ท้องฟ้า ก่อนที่จะวิ่งไปหลบที่ใต้ชายคาของอาคารแห่งหนึ่ง
และ Lukka ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาพุ่งตัวตาม Mila ไป ก่อนที่เปลวเพลิงแห่งมันกรจะพุ่งลงมาแผดเผาพื้นหินที่เขาเคยยืนอยู่
แต่กับพวก Mage Hunter แล้ว พวกมันไม่สามารถหนีเปลวเพลิงของมังกรได้ทัน
พวกมันทำได้แค่กรีดร้อง ก่อนที่ร่างจะสลายไปเป็นเถ้าถ่าน
และความเจ็บปวดมากมายก็ถาโถมเข้าสู่จิตของ Lukka ที่เชื่อมโยงอยู่กับพวกมันทันที
สถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องหยุดการเชื่อมต่อกับพวก Mage Hunter
ซึ่งทันทีที่พวก Mage Hunter ไร้ผู้ควบคุม พวกมันก็กลับไปทำตามสัญชาตญาณของมัน...
ตามล่าแหล่งพลังงานเวทย์มนต์ที่ใกล้ตัวที่สุด
พวกมันเริ่มโจมตีเหล่าสายลัยของ Oriq เพื่อสูบกินเอาพลังเวทย์มนต์ ในเวลานั้น Mila พร้อมที่จะกลับออกไปช่วยเหลือเหล่าสายลับของ Oriq
แต่มันก็ถูกห้ามปรามด้วยคำสั่งที่มาจากการเชื่อมจิตกับ Lukka
เพราะในตอนนี้ มันไม่ใช่ศึกที่เขาต้องเข้าร่วมอีกแล้ว
Lukka และ Mila เดินหลบออกไปจากพื้นที่แห่งความวุ่นวายของ Strixhaven
- หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง -
แม้ว่าภัยร้ายจะอยู่ต่อหน้าสองพี่น้อง Kenrith มันบีบให้พวกเขาต้องแก้ไขสถานการณ์นี้ แต่สิ่งปลูกสร้างที่กำลังพังทลาย ก็ส่งให้เศษซากของมันปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ
Will ทำได้แค่คอยหลบหลีกมัน ภายในหัวก็นึกย้อนไปถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากหนังสือมากมายที่อ่านผ่านๆ มา
Will เริ่มรวบรวบความชื้นในอากาศ เพื่อแปลงให้มันเป็นพายุหมุนแห่งน้ำแข็ง ที่ล้อกับพลังลมอันปั่นป่วนจากตัวของ Snarl เอง
เขาซัดมันไปทางที่ Extus ยืนอยู่
Extus ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะสติหลุดไปแล้ว เขาไม่ระมัดระวังสิ่งใดๆ รอบๆ ตัวอีกแล้ว เขายังคงยืนกางแขนอยู่เบื้องหน้า Blood Avatar ราวกับยินดีในความสำเร็จครั้งนี้
แต่ก่อนที่พายุน้ำแข็งของ Will จะได้ทำความเสียหายใดๆ
สายฟ้าของ Rowan ก็พุ่งเข้ามาในจังหวะเดียวกัน
สายฟ้าของเธอแล่นผ่านผลึกน้ำแข็งของ Will และส่งผลให้มันระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเพียงเกล็ดน้ำแข็ง ที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายอะไรได้
“อย่าขวางทางสิ Will” Rowan ตะโกนออกมา
“มันต้องใช้พลังผสานกันไม่ใช่เหรอ อย่าใช้พลังมั่วๆ สิ Rowan” Will ตอบกลับ “เราต้องรว-”
Will ยังไม่ทันจบประโยคของเขา ซากหินก้อนหนึ่ง ก็ร่วงลงมาทับไหล่ของเขาเต็มๆ มันส่งให้ Will ลงไปนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ร่างกายไร้การตอบสนองโดยสิ้นเชิง
“Will!” Rowan ตะโกนขึ้นมา เธอจะวิ่งเข้าไปหาพี่ชายของเธอ ก่อนที่เสียงของสิ่งของที่แหวกอากาศจะดังขึ้น
ดาบขนาดยักษ์ของ Blood Avatar ซัดลงมาตัดหน้าเส้นทางระหว่างเธอกับ Will
มันใกล้เสียจนเธอเห็นรอยสนิม และรายละเอียดบนใบมีดที่ผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วน
และนี่ก็คือโอกาสของเธอ
Rowan ส่งพลังสายฟ้าไปที่ดาบเล่มนั้น หวังให้มันเป็นสายล่อฟ้า
แต่ก่อนที่พลังของเธอจะได้สำแดงผล เพียงแค่ Blood Avatar สะบัดดาบของมันอีกครั้ง มันก็ส่งให้ร่างของ Rowan ปลิวไปติดกำแพง
Hall of Oracle
Rowan ค่อยๆ พยุงร่างของเธอขึ้นมา
ภาพของ Extus, Blood Avatar และ Will ที่ยังคงนอนนิ่งท่ามกลางบ่อเลือดแห่งนี้ มันเกินกว่าที่ Rowan จะทำอะไรได้แล้ว...
ดวงตาของเธอเอ่อไปด้วยน้ำตา... ความเจ็บปวด ความกังวลที่จะสูญเสีย Will ไป มันส่งให้ความโกรธแค้นในใจของเธอทรงพลังมากขึ้น
ถึงแม้การปะทะกันในครั้งนี้ มันอาจจะจบลงที่ความพ่ายแพ้
แต่เธอไม่สนมันอีกแล้ว ใครทำอะไรเธอ เธอจะสวนกลับให้สาสม!
ทว่า บางสิ่งกลับดึงสติของ Rowan กลับมา... ถ้าเธอใช้พลังของเธอแล้วมันไม่เพียงพอ ที่ใจกลางหอแห่งเทพพยากรณ์แห่งนี้ มันยังมีอีกสิ่งที่รอเธออยู่... พลังมานาบริสุทธิ์จาก Snarl...
Rowan หลับตาลง และตั้งสมาธิเพื่อดึงพลังของ Snarl
หอแห่งเทพยากรณ์ยังคงสั่นสะเทือน และส่งก้อนหินให้ร่วงลงมาเป็นระยะๆ
ร่างของ Blood Avatar ยังคงคำราม และกวัดแกว่งอาวุธของมัน เพื่อทำลายรูปปั้นของเหล่าเทพพยากรณ์
เทพพยากรณ์ กลุ่มคนที่ครั้งหนึ่ง Extus ใฝ่ฝันจะได้เป็นหนึ่งในพวกเขา แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อไย
และนี่... นี่คือเวลาที่เขาจะได้พิสูจน์ความสามารถของเขา ให้พวกเทพพยากรณ์ที่เคยดูหมิ่นเขาได้เห็นความสามารถที่แท้จริง... ความสามารถที่จะทำลายล้างทุกๆ อย่างที่เทพพยากรณ์พยายามปกป้องมา...
แต่ฉับพลัน รอยยิ้มจากความสำเร็จของ Extus ภายใต้หน้ากากของเขา ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของ Blood Avatar
ร่างของมันเริ่มกระตุกเกร็ง แสงจาก Snarl เริ่มกระพริบวูบวาบ...
นี่มัน... มันหมายความว่าพลังงานที่ป้อนเข้าไปเพื่อทำพิธีไม่เพียงพออย่างงั้นหรือ?
Extus รู้จากประสบการณ์ที่สังเวยแหล่งพลังงานมามากมายก่อนหน้านี้... แต่สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็คือ พลังงานจาก Snarl มันต้องมีมากจนเกินพอจะหล่อเลี้ยง Blood Avatar ได้แท้ๆ แล้วเหตุใดกัน พลังงานมันถึงขาดไป...
และสายตาของ Extus ก็เห็นว่า แสงจาก Snarl ได้ถูกบิดเบือน มันไหลไปตามอากาศราวกับสายลม
มันเชื่อมโยงเข้ากับเด็กสาวผมบลอนด์ที่มุมห้อง...
เด็กสาวที่ตอนนี้จ้องเขม็งมาที่เขา ด้วยดวงตาแห่งความเคียดแค้น ร่างกายของเธอส่งสายฟ้าออกมารอบๆ
ภาพที่ Extus เห็น ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง...
แผนที่วางมานานนับปี จะถูกทำลายลงโดยเด็กวัยรุ่นหนึ่งคนจริงๆ งั้นหรือ?
Crackle with Power!
Rowan รู้สึกได้ว่าเธอหายใจลำบากกว่าเดิม
ทุกๆ ลมหายใจ เข้าออกของเธอ มันอัดแน่นไปด้วยพลังงาน มันส่งให้เธอได้รับพลังอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิด
เธอรู้ได้เลยว่า ในตอนนี้อะไรก็หยุดเธอไม่ได้แล้ว
ในขณะที่ Extus เพียงแค่พยายามตั้งรับเพื่อรอดูสิ่งที่ Rowan จะทำได้
พลังงานมากมาย หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของ Rowan มันส่งให้ร่างของเธอลอยอยู่กลางอากาศโดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอหายใจเอาพลังงานที่อัดแน่นอยู่ในอากาศรอบๆ ตัวของเธอ ก่อนที่เธอจะกรีดร้องปลดปล่อยความเคียดแค้นสู่ Extus
เปลวเพลิงพุ่งออกมาจากปากของ Rowan ราวกับมังกรพ่นไฟ
แม้ Extus จะใช้เวทย์มนต์ของเขาปกป้องตัวเองได้ทัน แต่พลังของ Rowan ก็รุนแรงเกินกว่าที่เวทย์ของ Extus จะป้องกันได้
พลังนั้นส่งให้ Extus เป็นฝ่ายกระเด็นไปกระแทกเสาหิน พร้อมๆ กับผ้าคลุมที่ถูกไฟคลอกบางส่วน
Rowan ดึงพลังจาก Snarl อีกครั้ง
ความรู้สึกของเธอเหมือนกับการได้ดื่มน้ำเพื่อดับกระหาย พลังงานมากมายไหลเข้ามาในร่างของเธออีกครั้ง ครานี้ เป้าหมายของเธอคือร่างที่ยังกระตุกไปมาของ Blood Avatar
แม้มันจะพยายามเงื้อดาบของมันเพื่อโจมตีเธอ
แต่ Rowan รู้ได้เลยว่า พลังที่เธอมี มันมากเกินพอจะหยุดการโจมตีทื่อๆ ของ Blood Avatar
มันมากพอที่เธอจะทำลายมันทิ้ง ทำลาย Extus หรือใครก็ตามที่ทำให้เธอเจ็บปวด... หรือทำให้ Will ต้องเจ็บปวด
Rowan ส่งสายฟ้าของเธอไปยังเป้าหมาย
แต่สายฟ้าของเธอกลับไพุ่งออกไป มันติดอยู่ที่แขนของเธอ และทำให้เธอได้รับความเจ็บปวดเหนือคณานับ
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังมาจากอีกมุมหนึ่งของห้อง... Extus พยุงร่างของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง
“แกคิดว่าแกจะครองพลังมากมายขนาดนั้นได้หรือไง”
Rowan ไม่ได้สนใจ Extus แม้แต่น้อย... หรือจะให้บอกตามตรง คือเธอไม่ได้ยินสิ่งที่ Extus พูดด้วยซ้ำ เธอยังพยายามจะควบคุมพลังที่ก่อมาจากความเกรี้ยวกราดของเธอ สายลมจาก Snarl เริ่มส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้ง
“ข้าฝึกฝนวิชาแห่งเวทย์มาทั้งชีวิต” Extus พึมพำ “แกมันก็แค่เด็กโง่คนหนึ่ง... แค่แมงเม่าในกองไฟ”
สายฟ้าเริ่มก่อตัวรอบๆ ร่างของ Rowan อีกครั้ง
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เธอก็ไม่สามารถควบคุมร่างของตัวเองได้อีก เธอเริ่มกระตุก ก่อนที่จะร่วงลงมากระแทกพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด
“ความพยายามของแกมันน่านับถือ แต่แผนของข้าคงไม่จบลงเพราะเด็กแค่คนเดียวอย่างเจ้าหรอก” Extus หยิบเอาหนังสือคัมภีร์เล่มใหญ่ของเขา เพื่อจะเตรียมส่งพลังจาก Snarl กลับไปให้กับ Blood Avatar อีกครั้ง
Rowan ที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เธอไม่สามารถขยับร่างของเธอได้ไหว ร่างกายมันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และความว่างเปล่า
สายตาของเธอเห็นภาพพี่ชายของเธอ กำลังคลานเข้ามาหา
“Rowan” Will เรียกน้องสาวของเขา ในขณะที่ยังต้องกัดฟันทนความเจ็บปวด “ลุกขึ้น”
Rowan อยากจะตอบพี่ชายของเธอ แต่สิ่งที่ออกมาจากคอของเธอมีเพียงแค่ลมแผ่วๆ เท่านั้น
“Rowan ลุกเถอะ” Will ที่คลานมาถึง เอื้อมมือไปจับแขนของน้องสาวของเขา... สายฟ้าส่งกระแสข้ามไปยัง Will ได้เล็กน้อย
“ขอโทษนะ” Rowan ส่งเสียงออกมาได้ในที่สุด
“ไม่เป็นไรนะ” Will ขยับเข้ามาใกล้ขึ้น “ลุกขึ้นเถอะ เราต้องไปจากที่นี่” Will กัดฟัน และดึงแขนของ Rowan มาพาดบ่า เพื่อพยุงเธอ
พลังสายฟ้าของ Rowan ส่งกระแสเข้าสู่ร่างของ Will จนเขากระตุก
“ฉันขอโทษที่ก่อเรื่องที่ Mage Tower... ที่ Bow’s End ด้วยนะ” Rowan พูดต่อ
“พี่ก็ขอโทษนะ” Will พูดพลาง ลากร่างของเขาและ Rowan ไปยังทางออกของหอแห่งเทพพยากรณ์
ก่อนที่ Will จะหยุดเดิน... หันหลังกลับ และโพล่งออกมา
“มันเหมือนพวกมาสคอทไง!”
“พูดอะไรของพี่?” Rowan งงกับสิ่งที่ Will พูด
Will ส่ายหัว และพูดซ้ำ “Blood Avatar มันเหมือนพวกมาสคอทไง... เราแค่ต้องขโมยมันมา”
“เหมือนงานแข่งที่ Mage Tower เหรอ?” Rowan พูดออกไปโดยที่ยังไม่ค่อยมีสติ
“ใช่... ลองเชื่อพี่ดูเถอะ” Will พูดด้วยสายตามุ่งมั่น
Rowan อยากจะเถียงกลับ แต่ทว่าใบหน้าของ Garruk ก็ลอยเข้ามาให้ห้วงความคิดของเธอ
Garruk ชายร่างใหญ่ ที่เข้ามาในชีวิตของทั้งเธอ และพี่ชาย
เขาคงจะกลายไปเป็นศัตรู หรือเป็นพียงแค่คนรู้จัก ถ้าหากในวันนั้น ไม่มี Will อยู่
Will กลายเป็นคนที่เปลี่ยนให้ Garruk มาเป็นพันธมิตรกับตระกูล Kenrith และหยุดยั้งความวุ่นวายใน Eldraine...
Will และ Rowan Kenrith
ใช่แล้ว Will พี่ชายขี้งอนไอคิวสูงของเธอ... เขาคือคนที่ตัดสินใจถูกมาเสมอๆ... หวังว่าครั้งนี้ จะเป็นอีกครั้ง ที่เขาเลือกคำตอบได้ได้ถูก
“Rowan?” Will เรียกน้องสาวของเขา และหยุดความคิดที่พาเธอกลับไปยังอดีต
Rowan กัดฟันทนกับความเจ็บปวดไปทั่วสรรพร่างของเธอ และรวบรวมพลังกลับมาได้อีกครั้ง “ถึงเวลาพี่โชว์แล้ว ว่าหนังสือที่อ่านมา มันจะช่วยเราได้แค่ไหน”
Will ยิ้มรับคำตอบนั้น เขาหันหลังเดินกลับไปยังร่างของ Blood Avatar
ที่มือของขาปรากฏวงเวทย์สีแดงขึ้นมา
มันไม่ใช่เวทย์น้ำแข็งแบบที่เขาเคยใช้อย่างแน่นอน แต่กระนั้น อุณภูมิรอบๆ ตัวของเขาก็ลดลงไปหลายองศาอยู่ดี
Will รวบรวมพลัง และปลดปล่อยเวทย์นั้น ไปยัง Blood Avatar
มันปรากฏวงแหวนสีแดงล้อมที่คอของร่างนั้นทันที
“ตัวมันใหญ่มากก็จริง แต่มันก็ยังเป็นสัตว์ที่ถูกเรียกมา เหมือนกับพวกมาสคอทไงล่ะ” Will พูดอธิบาย แม้มือของเขาจะสั่นจากการควบคุมพลังอยู่
ทว่า แม้จะมีวงแหวนสีแดงขึ้นมา แต่เจ้า Blood Avatar ก็หาได้ทำตามความประสงค์ของ Will
มันยังคงคำรามด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาถ ส่วน Extus ที่พบว่าเด็กวัยรุ่นสองคน ยังคงตามวุ่นวายเขาไม่เลิก มันคงถึงเวลาที่จะต้องปิดบัญชี เขารวบรวมพลังไว้ที่มือ เปลี่ยนให้มันกลายเป็นกงเล็บเวทย์
Will ต้องใช้พลังของเขาปัดป้องการเข้าโจมตีของ Extus และนั่นก็ทำให้วงแหวนที่ล้อมคอของ Blood Avatar เริ่มสลายไป
Rowan เห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจอีกต่อไป
การควบคุมสัตว์ปีศาจอย่าง Blood Avatar ไปพร้อมๆ กับการป้องกันจอมเวทย์ระดับสูงสุดของ Oriq เป็นสิ่งที่ Will ไม่สามารถทำได้แน่ๆ...
ถ้า Will จะต้องเผชิญภัยร้ายเหล่านี้ด้วยตัวเขาเอง... แต่ตอนนี้เขายังมีเธออยู่
Rowan เดินเข้าไปจับที่ไหล่ของ Will
ด้วยความประหลาดใจ Will จึงถาม Rowan ออกไป “เธอจะทำอะไรเนี่ย?”
“พี่แค่ควบคุมพลังเวทย์ให้ดีที่สุด ที่เหลือฉันจะลุยเอง” Rowan ตอบกลับ
แม้ว่าเวทย์ของทั้งคู่จะไม่สามารถผสานกันได้อย่างที่เคย... แต่ถ้า Will สามารถควบคุมพลังเวทย์ของเขาได้มากขึ้นตามที่เขากล่าวอ้างแล้วล่ะก็
การที่ Rowan ทรงพลังมากขึ้น จนเธอไม่สามารถควบคุมมันได้แล้วละก็
มันคงถึงเวลาที่เธอจะถ่ายทอดพลังที่เธอมี ให้พี่ของเธอเป็นผู้ควบคุมมันอีกที
พลังของ Rowan กระโดดเข้าสู่ร่างของ Will
มันทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย แต่พลังที่ส่งมา ก็แสดงผลทันที เมื่อวงแหวนเวทย์สีแดงนั้น สามารถล้อมรอบคอของ Blood Avatar ได้สำเร็จ
ผลสัมฤทธิ์จากการศึกษา
“ไอ้เด็กเปรต!” Extus แหกปากขึ้นมา “พวกแกทำอะไรลงไ-”
Blood Avatar คว้าร่างของ Extus ขึ้นมา มันบีบร่างของเขาจนเสียงร้องเงียบไป เหลือเพียงเสียงของกระดูกที่หักลั่นอยู่ในมือของมัน
“เราทำได้!” Will ตะโกนขึ้นมา “Rowan เราทำมันสำเร็จแล้ว”
Rowan ที่ยืนอยู่ข้างของ Will ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากยืนโงนเงนอยู่ข้างๆ
ภาพที่เธอเห็นคือทั้งห้องแห่งนี้หมุนไปมา... นี่คงเป็นอาการของนักเวทย์ที่ไม่เหลือพลังในร่างแล้วสินะ
วงแหวนที่ล้อมรอบ Blood Avatar ก็ไม่สามารถคงสถานะของมันได้ เมื่อพลังงานที่ป้อนเข้าไปหมดลง
ปีศาจแห่งสงครามกลับมาคำรามร้องอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ มันไม่ใช่เสียงคำรามแห่งความสะพรั่นพรึง เมื่อร่างของมันเริ่มบิดเบี้ยวไปมา พลังงานจาก Snarl ไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของมันได้อีกแล้ว
มันกำลังถูกดึงกลับไปจากโลกแห่งนี้
ก่อนที่มันจะจากไป ความพยายามจากสัญชาตญาณครั้งสุดท้าย ส่งให้มันเงื้อดาบในมือขึ้นสุดแขน มันฟันลงมาตรงที่ Rowan ยืนอยู่
Will ผลักให้น้องสาวของเขาออกไปพ้นทาง ส่วน Rowan เองก็ไร้พลังที่จะฝืนแรงอะไรอีกแล้ว เธอล้มลงไปตามแรงผลักของ Will พร้อมๆ กับเสียงของดาบที่กระแทกเข้ากับพื้น
มันลากดาบขนาดยักษ์ทิ้งร่องรอบไว้เป็นทางยาว ก่อนที่ทุกๆ อย่างที่มาพร้อมกับ Blood Avatar จะถูกดึงหายไปใน Snarl
อีกฝั่งที่ดาบยักษ์นั้นเคยกั้นขวางเอาไว้ Rowan เห็นพี่ชายของเธอนอนแน่นิ่งอยู่
ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้เธอโล่งใจแล้ว เพราะอย่างน้อยตัวของเขาก็ไม่ได้เละ หรือขาดเป็นสองท่อนอยู่ตรงพื้น....
แต่ทว่า...
เมื่อ Rowan มองต่ำลงไป เธอก็พบว่าขาขวาของ Will ได้หายไปแล้ว...
แม้ว่าเธอจะอยากเข้าไปหาพี่ชายของเธอแค่ไหน
แต่สิ่งสุดท้ายที่พยุงหอแห่งเทพพยากรณ์เอาไว้ ก็คือร่างของ Blood Avatar
เมื่อมันไม่อยู่ที่นี่แล้ว ซากปรักหักพังก็เริ่มร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง
ก่อนที่ Rowan จะขยับเข้าไปคว้าร่างของพี่ชายเธอเอาไว้ได้ พิ้นของหอแห่งเทพพยากรณ์ก็ได้ถล่มลงไป
ร่างของทั้งสองพี่น้อง Kenrith ลอยลงไปสู่ความว่างเปล่าเบื้องล่าง
แต่ Rowan ก็พบว่า เธอถูกพยุงด้วยหมอกบางอย่าง และเมื่อเธอมองไปทางพี่ชายของเธอ เขาก็ได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน
“นั่นไง” Will พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่อิดโรย เขาชี้ไปทางประตูของหอแห่งเพพยากรณ์
ที่นั่นคณบดี Nassari กับ คณบดี Lisette ยืนอยู่ด้านบน กำลังใช้เวทย์มนต์เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาของพวกเขาอยู่ โดยคณบดี Nassari ใช้พลังเวทย์แห่งลมเพื่อพัดเอาพวกเศษซากปรักหักพังออกไปให้พ้นทาง และส่งเอาหมอกไปรับทั้งคู่ขึ้นมา
เมื่อถึงระยะที่เถาวัลย์ของคณบดี Lisette จะสามารถรับร่างของ Will และ Rowan ได้ เธอก็ส่งมันไปรับทั้งคู่มาบริเวณที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย
และเมื่อคณบดี Nassari ปลดพลังของเธอ หอแห่งเทพพยากรณ์ที่ไร้โครงสร้างใดๆ มาค้ำจุน ก็ถล่มลงมาไม่เหลือชิ้นดี
“เราทำได้แล้ว” Will พูดด้วยเสียงอันอ่อนล้า “เราทำได้แล้ว Ro” เขากลับไปเรียกชื่อย่อๆ ของน้องสาวของเขาได้เต็มปากอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหลับตาลง
ในตอนนี้เขาดูซีดมากๆ น่าจะเป็นเพราะการเสียเลือกมากจากขาที่หายไป คณบดี Lisette รีบเข้าไปปฐมพยาบาล และใช้วิชาสมุนไพรเพื่อพยุงชีพของ Will เอาไว้
“อย่าขยับนะ” คณบดี Lisette นั่งลงข้างๆ Will “เธอกำลังเสียเลือด”
“พี่จะเป็นอะไรมั้ยคะ?” Rowan รีบถามด้วยความเป็นห่วง
“เขาไม่ตายแน่ๆ ล่ะ” คณบดี Nassari พูดพร้อมกับเอามือวางบ่นบ่าของ Rowan “เธอทั้งสองคนผ่านมาหนักเลยนะ... โชคดีที่เธอทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว”
สิ่งที่ผ่านมางั้นหรือ? แม้ว่าประตูของหอแห่งเทพพยากรณ์จะถูกปิดตายจากซากปรักหักพัง แต่ Rowan ยังรับรู้ได้ว่า พลังงานจาก Snarl ยังคงเรียกหาเธออยู่
- 5 สัปดาห์ต่อมา -
เสียงกริ่งดังขึ้น มันร้องเตือนว่าหมดคาบแรกของมหาวิทยาลัยดังขึ้น
Will รู้สึกราวกับว่า ทุกๆ สิ่งกลับมาเป็นเหมือนปกติแล้ว
เขาเดินออกมาด้วยไม้เท้าช่วยเดิน และขาเทียมที่สร้างมาจากพลังเวทย์น้ำแข็งของเขา
แม้ว่าคณบดี Lisette จะเสนอขาเทียมที่สร้างมาจากเวทย์มนต์แห่งไม้ให้กับ Will
แต่เขาก็ปฏิเสธไปด้วยความสุภาพ เพราะเขามองว่า การขาเทียมจากน้ำแข็งด้วยพลังของเขา มันช่วยฝึกฝนพลัง และอย่างน้อยที่สุด มันก็ดึงความสนใจจากความเจ็บบริเวณแผลที่คอยรบกวนเขามาเป็นระยะๆ เนื่องด้วยขาเทียมเหล็กที่เป็นแกนของมันจริงๆ
เรื่องราวของ Will และ Rowan แพร่กระจายไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
และข่าวพวกนั้น ก็ทำให้ Will รู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การเดินตามโถงทางเดินของเขา กลายเป็นทางเดินที่นักศึกษาคนอื่นๆ จะหลบให้เขาเดิน บ้างก็จับกลุ่มซุบซิบเมื่อเขาเดินผ่าน...
บรรยากาศมันเหมือนกับการใช้ชีวิตที่ Eldraine... ซึ่งสำหรับ Will แล้ว เขาคิดถึงช่วงเวลาที่เขาเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆ ที่นี่เท่านั้น
สุดท้ายแล้ว Will ก็มาถึงที่ห้องที่หอพักของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้เปิดประตู
ลูกบิดประตูมันก็เปิดหนีมือของเขา ก่อนที่ Rowan จะสวนออกมาจนเกือบจะชนเข้ากับพี่ชายของเธอ
Rowan ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่จะถอยและเปิดประตูให้พี่ชายของเธอเดินเข้าไปภายใน
“เป็นไงบ้าง?” Will ทัก Rowan ขึ้นก่อน
“ดีขึ้น แต่ยังไม่เต็มร้อยเลย” Rowan ตอบ “แล้วพี่เป็นไงบ้าง?”
Will ใช้นิ้วของเขาเคาะไปที่ไม้เท้า ก่อนที่จะมีอักขระอะไรบางอย่างลอยออกมา
มันเป็นอักขระที่ Quint เพื่อนของเขาฝังไว้ในไม้เท้า เพื่อช่วยพยุงตัวเขาอีกต่อ อักขระนั้นลอยกลับลงไปที่ช่องเก็บอักขระเบื้องล่างไม้เท้า “กำลังปรับตัวอยู่น่ะนะ” Will ตอบ และยิ้มกลับมา
“แผลเป็นไงบ้างอ่ะ?”
“ค่อยๆ ดีขึ้นนะ” Will ตอบให้ Rowan วางใจ แม้เขาจะยังมีอาการปวดหลอนอยู่ก็ตาม
[อาการปวดหลอน คือการเจ็บ หรือปวดอวัยวะที่สูญเสียไปแล้ว]
“ถ้าเราเอาเรื่องนี้กลับไปเล่าที่ Eldraine คนที่นั้นจะคิดยังไงกับเรื่องนี้กันน้า?” Rowan พูดขึ้นมา
“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ... เดี๋ยวปิดเทอมนี้เราก็กลับบ้านกันก็ได้นี่” Will ตอบ
“แล้วรอปิดเทอมทำไมล่ะ เรากลับบ้านกันเลยดีมั้ย?”
“ก็ยังต้องเรียนอยู่ไงเล่า ถึงกลับไม่ได้”
“นี่ พวกเราจัดการ Blood Avatar เลยนะ จะไปเหลืออะไรให้เราเรียนอีกเล่า?” Rowan ตอบ
“ก็เพราะเราใช้เวทย์มนต์ที่เรียนมาจากที่นี่ไงล่ะ” Will บอก Rowan “แถมตอนนี้ เรายังแก้ปัญหาที่เวทย์ของพวกเราผสานกันไม่ได้เลยนะ หรือเรื่องที่เราต้อง Planeswalk ไปพร้อมๆ กันเนี่ยะ, เธอเห็นมั้ย มีอีกตั้งหลายเรื่องเลยนะ ที่พวกเรายังต้องเรียนรู้”
“ค่า... ฉันว่ามันคงดีกว่า ถ้าจะไม่ต้องลากพี่ไปๆ มาๆ น่ะนะ” Rowan ตอบ “ฉันว่า ฉันไปก่อนดีกว่า”
“จ้าๆ” Will ตอบ “ฝากทักทาย Plink กับ Auvernine ด้วยนะ”
Rowan เดินออกจากห้องไป ก่อนที่จะหันกลับมาบอกกับ Will “ฉันรักพี่นะ”
“พี่ก็รักเรานะ” Will ตอบกลับ
ภาพของน้องสาวของเขา ที่ตอนนี้เธอดูซูบผอมกว่าเดิมมาก แก้มของเธอตอบจนเห็นได้ชัด แต่รอยยิ้มของเธอที่ส่งมา ก็บอกได้ว่า สภาพจิตใจของเธอยังเต็มร้อยอยู่
Will ปิดประตูเมื่อเห็นว่า Rowan เดินลับสายตาไปแล้ว เขานอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน...
อีกเทอม, อีกปี ใครจะไปรู้ว่าการมาศึกษาที่ Strixhaven จะให้อะไรกับเขา เขาหลับตาลง ขยายขอบเขตของพลังเวทย์จับเอาความชื้นที่ขาเทียมของเขา เพื่อให้มันจับตัวเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง
ส่วนสมองของเขา ก็ไม่ยอมให้เขากลับไปพักผ่อนเช่นเคย -กฎของการถ่ายทอดอุณภูมิ หาจุดของความร้อน และส่งต่อ...-
- การจับตามอง -
นกฮูกของ Kasmina บินผ่านพื้นที่ของ Strixhaven อีกครั้ง
มันไม่หลงเหลือร่องรอยของการโจมตีเมื่อเดือนก่อนเลย
สิ่งเดียวที่เป็นหลักฐาน ก็คือหอแห่งเทพพยากรณ์ที่พังทลายลงจนเหลือเพียงซาก กระนั้น วิทยาเขต Lorehold ก็ได้สรรค์สร้างอนุสาวรีย์ที่เป็นใบหน้าของเหล่าเทพพยากรณ์ไว้ที่ทางเข้าของ Biblioplex
มันเป็นรูปปั้นหินอ่อน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าของมันไปมา ที่ฐานได้สลักข้อความ “ณ Strixhaven ตำนานจะไม่ถูกลืมเลือน”
Kasmina คิดกับตัวเอง -ที่ Strixhaven ไม่ได้เสี่ยงกับการล่มสลายในครั้งนี้เป็นครั้งแรก... และมันจะยังคงอยู่ต่อไป-
นกฮูกอีกตัว ที่บินติดตาม Lukka ในป่านอกเมือง
เขายังคงเดินทางไปกับ Mila จิ้งจอกคู่ใจ พร้อมกับเหล่าสายลับ Oriq ที่เหลืออยู่ กระนั้น เขาก็ไม่ได้เป็นภัยในเวลานี้ พวกเขาเพียงต้องการที่พักเท่านั้น
สิ่งที่ Kasmina ให้ความสนใจคือ Rowan เสียมากกว่า... หรืออาจจะรวมถึง Will ด้วย... ทั้งคู่น่าติดตามมากกว่าอดีตทหารอย่าง Lukka เสียอีก
- การจากลา -
Liliana กำลังจัดชุดของเธอให้เรียบร้อยในห้องพักอาจารย์ของเธอ
มันใช้เวลาเกือบวันเต็มๆ ที่เธอต้องเดินกลับมาจากป่าชายขอบของ Strixhaven หลังจากที่ Extus ส่งเธอออกมาระหว่างการปะทะกัน
กระนั้น หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง เหล่าคณบดีของแต่ละวิทยาลัยก็น้อมรับความผิด ที่พวกเขาไม่เชื่อคำเตือนของ Liliana
พวกเขายินดีที่จะให้ Liliana กลับเข้ามาเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดนที่ไม่ต้องผ่านการเฝ้าระวัง หรือการประชุมไปเสียทุกครั้ง
Liliana ตอบตกลงไป พร้อมกับอีกหนึ่งเงื่อนไข...
Liliana มองตัวเองในกระจกอีกครั้ง... มันเป็นเรื่องที่เธอเองไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นกับเธอ
การสอบปลายภาค, นักศึกษา, ไม่มีปีศาจ ไม่มีแผนร้าย ไม่มีความตาย...
เธอมองไปที่สมุดบันทึกการทดลองที่เปิดอยู่ของเธอ
เธอมองไปที่มัน และพูดขึ้นมาราวว่า เธอกับมันสื่อสารได้
“เพื่อนเก่าของฉัน... มันคงถึงเวลาที่เราจะต้องจากกันแล้วสินะ”
เธอปิดสมุดลง นำมาไปเก็บไว้ที่ชั้นวางหนังสือ เธอรู้สึกเป็นนัยๆ ว่าเขาคงจะภูมิใจกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เธอยิ้มออกมา และเดินไปที่ห้องเรียน
Liliana เดินเข้าไปในห้อง หลังจากที่จัดเครื่องแต่งกายของเธอให้เรียบร้อยอีกครั้ง
เสียงของนักศึกษาที่วิ่งกลับไปที่นั่ง และเสียงพูดคุยที่เบาลงทันทีที่อาจารย์ของพวกเขาเดินเข้ามาถึงในห้อง
Liliana เดินมาที่โต๊ะกลางห้อง
“ยินดีต้อนรับพวกเธอเข้าสู่ชั้นเรียนวิชาศิลปะแห่งการใช้มนต์ดำ”
เธอพูด ก่อนที่จะมีเสียงกริ่งดังขึ้น เพื่อบอกให้รู้ว่าคาบเรียนได้เริ่มขึ้นแล้ว
“และอาจารย์ชื่อ ศาสตราจารย์ Liliana Vess”