- มงคลสมรส -
หน้าต่างกระจกสีไม่ได้สร้างได้ในวันเดียว
การจะทำมันขึ้นมาสักบานหนึ่ง คุณต้องวางแผนก่อนที่จะเริ่มตัดกระจกเสียด้วยซ้ำไป
และเพียงขั้นตอนนี้ก็อาจจะกินเวลาได้เป็นเดือนๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องอาศัยพลังของทั้งช่างทำกระจก และศิลปิน
ภาพร่างคร่าวๆ อาจจะช่วยได้บ้าง แต่การวางกระจกจริงๆ มันยังมีเรื่องของมุมหักเหแสงที่จะช่วยขับให้มันดึงดูดสายตา
ปีกของนางฟ้าในกระจกสีนั้นจะประกอบไปด้วยขนนกซักกี่อัน?
เกล็ดของงูทะเลจะต้องมีกี่เกล็ด? หรือจะเป็นเขี้ยว, ลำแสงที่สาดส่อง? สุดท้ายแล้วรายละเอียดทั้งหมดก็ต้องลงลึกให้ครบถ้วนก่อนจะลงมือสร้างมันขึ้นมา
การทุ่มเทเวลายาวนานนับชั่วโมง นับสัปดาห์ นับเดือน ก็จึงจะเริ่มต้นขึ้น
ขนนกทุกๆ อัน, เกล็ดทุกๆ เกล็ด, คมเขี้ยวทุกๆ ซี่ ต่างมาจากชิ้นส่วนของกระจกที่ตัดมาเพื่อวัตถุประสงค์ของมันโดยตรงเท่านั้น
เหล็กร้อนๆ ที่ใช้เพื่อตัดกระจก พร้อมกับความหวังที่มันจะไม่แตกหักจากความต่างของอุณหภูมิเสียก่อน...
ชิ้นแล้ว ชิ้นเล่า ที่ถูกตัดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ...
กระนั้น กระจกสีเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถคงรูปในบานหน้าต่างได้ พวกมันจะต้องถูกวางในกรอบเหล็กที่ดัดมาอย่างพอดีกับกระจก...
สุดท้าย คุณจึงจะได้หน้าต่างกระจกสี...
และถ้าคุณโชคดีพอ... มันจะคงอยู่นานนับศตวรรษ... ถ้าไม่มีใครโยนนางฟ้าพุ่งทะลุหน้าต่างจนมันแตกไปเสียก่อน
Sorin เคยเห็นหน้าต่างกระจกสีมามากมายในชีวิตอันยาวนานของเขา, และเขายังเคยสั่งทำด้วยซ้ำไป
ขั้นตอนอันยาวนาน และแสนจะปราณีตทำให้เขาประทับใจอยู่เสมอๆ ไม่ต่างจากงานสถาปัตยกรรมดีๆ ที่ถูกสร้างเพื่อรับงานกระจกสีอันแสนวิจิตร เพราะทั้งคู่ต่างเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อยืนยาว และสะท้อนความเป็นไปของยุคสมัย
แม้ว่า Sorin จะได้พบเห็นหน้าต่างกระจกสีมามากมาย แต่งานกระจกสีที่เขาถูกบังคับให้รับชมในตอนนี้ มันช่างชวนให้ประหลาดใจ
ภาพของ Olivia ที่อยู่บนสุดของกระจกสี ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มที่แสนปิติ ขนาบด้วยถ้วยแก้วบรรจุเลือดทั้งสองข้างเป็นกรอบเสริม มันวิจิตรเสียจนอดคิดไม่ได้ว่ามันจะต้องใช้เวลามากมายเพียงไหน ที่จะสร้างริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกนั้นออกมาได้, ความละเอียดของทุกๆ เครื่องประดับ... หรือแม้แต่ขนตา... ทั้งหมดเพียงเพื่อจะตอบสนองอัตตาที่สูงเสียดฟ้าของ Olivia เท่านั้น
ในขณะที่งานกระจกสีของตระกูลอื่นๆ ต่างมีไว้เพื่อเล่าเรื่องสายตระกูล แต่ Olivia กลับใช้โอกาสนั้นเพื่อดึงความสนใจมาไว้กับตัวเองเสียหมด
แม้ว่าทั้งคฤหาสน์จะมีเรื่องราวอื่นๆ แต่มันก็ยังเป็น Olivia ที่โดดเด่นเกินกว่าสิ่งใดๆ... ทั้งกระจกสี, ภาพวาด หรือตัวเป็นๆ ที่ยืนคล้องแขนอยู่กับ Edgar Markov ในตอนนี้
Olivia, Crimson Bride
Olivia กับผ้าคลุมวิญญาณสีเลือด และ Edgar ในชุดแต่งงานสุดวิจิตร กลายเป็นภาพสุดหรูที่ชวนเจ็บปวด
ไม่ว่าจะปู่ หรือญาติๆ ที่มารวมตัวกันในวันนี้ ต่างมองมาที่เขาด้วยความสมเพช แม้แต่บรรดาแขกเหรื่อในงานก็เต็มไปด้วยความกระหายจะเสพละครความขัดแย้งตระกูล Markov พอๆ กับความอยากดื่มเลือด
เรื่องนู้น, เรื่องนี้ ต่างส่งต่อความวิบัติมาจนถึงจุดนี้... เมื่อ Vampire ออกอาละวาด, Sorin จึงสร้างนางฟ้าผู้พิทักษ์ขึ้นมา แต่นางฟ้าก็ดับสลายไป, Sorin ถูกหยามเกียรติ และนั่นก็เป็นโอกาสที่ทำให้ Olivia เข้ามาแทนที่ Sorin
Olivia ยกแก้วเลือดในมือขึ้นมาจิบ เธอมองมาที่ Sorin พลางยิ้มมุมปาก และสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานนั้น บ่งบอกว่าเธอจะเอาทุกๆ อย่างที่เธอต้องการ... เธอไขว่คว้าอำนาจราวกับต้นไม้ที่เลื้อยหาแสง
“ยินดีต้อนรับแขกทุกๆ ท่าน” Olivia ประกาศต้อนรับสมาชิกจากตระกูล Markov “ถ้างานแต่งแล้วไม่มีญาติเจ้าบ่าวมันก็คงดูแปลกๆ อยู่นะ”
ในขณะที่เธอกำลงพูดอยู่นั้น ปู่ Edgar กุมมือเธออย่างแนบแน่น มันเป็นภาพที่กระตุ้นให้ Sorin หงุดหงิดแทบเป็นบ้า... นึกย้อนไปในตอนที่ย่ายังมีชีวิตอยู่ ปู่แทบจะไม่คุยกับย่าเลยด้วยซ้ำ... แต่ตอนนี้เขากลับมีมุมอ่อนโยนให้กับยาย Olivia เสียอย่างนั้น
เสียงหัวเราะพอเป็นพิธีดังขึ้นจากญาติของเขาเป็นการตอบรับมุขตลกของ Olivia แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้หันมาสนใจ Sorin แต่เขาก็รับรู้ถึงการเย้ยหยันนั้นได้
“ทุกๆ ท่านที่ได้รับเกียรติมาร่วมงานนี้ คงจะอดใจรองานหลักไม่ไหวแล้ว” Olivia พูดต่อ “แต่ยังก่อน, ฉันมีของขวัญให้กับ Edgar สุดที่รักของฉัน, ทาส!”
เธอดีดนิ้ว
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น... มันทำให้ Sorin มีหวังขึ้นมาเล็กๆ เขาแอบคิดว่าเหล่าทาสอาจจะหลุดจากการควบคุมของ Olivia แล้ว
และแล้ว ความหวังนั้นก็ดับวูบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อ Olivia ชี้ขึ้นไปเบื้องบน
โคมระย้างั้นเหรอ? มันก็อลังการไม่ต่างจากงานกระจกสี... แต่มีอะไรพิเศษงั้นหรือ? นอกจากความมั่นใจในใบหน้าของ Olivia
ที่โคมระย้านั้น มีอะไรบางอย่างมัดติดอยู่
มันถูกหย่อนลงมาจากโคมระย้านั่น ด้วยผ้าม่านสีแดงสด, รูปร่างคล้ายๆ กับกรงนกขนาดใหญ่ จน Sorin อดคิดไม่ได้ว่ามีใครส่งผีดิบที่ตัดต่อร่างกาย มาเป็นของขวัญแบบป่วยจิตมาให้ Olivia หรือเปล่า? เพราะร่างนั้นมันมีปีกนกขนาดใหญ่ติดมาด้วย...
เดี๋ยวนะ ปีกนกงั้นหรือ?
ยิ่งกรงนั้นลดตัวลงใกล้พื้นเท่าไหร่ กลิ่นที่ Sorin คุ้นเคยก็เตะจมูกเขา... กลิ่นของเลือดนางฟ้า... กลิ่นที่ทำให้ความทรงจำครั้งอดีตกลับมา
ณ คฤหาสน์ตระกูล Markov, บรรดาญาติๆ และคนสนิทของพวกเขาที่มารวมตัวกัน, ความกลัวจนเสียวสันหลัง, ความกดดันจากสายตาที่คาดหวัง... และแก้วเลือดในมือของปู่ของเขา
ดื่มเพื่อเป็นนิรันดร์
เขาไม่อยากดื่มมันเลย... กลิ่นทองแดงที่ผสมปนเปกับกลิ่นอื่นๆ จนชวนอ้วก... และนางฟ้าที่ถูกห้อยหัวจากกลางโต๊ะ... เหมือนกับนกที่ถูกล่า
ความทรงจำในวันนั้น... ผ่านมานับปี... นับศตวรรษ... ร่างที่บิดเบี้ยวของเธอ มองมาที่ Sorin...
สายตาของเธอเว้าวอนเขา...
อย่าดื่มมัน ช่วยข้าที
Edgar Markov
กาลเวลาอาจจะทำให้ความทรงจำของ Sorin ลบเลือนไปบ้าง
แต่เสียงครวญครางของเธอ, กลิ่นเลือดของเธอ สายตาของเธอและของปู่ของเขา กลับตราตรึงอยู่ในความทรงจำราวกับภูเขาตั้งตระหง่านท้าทายคลื่นลม
เขารู้ว่าสิ่งที่แขวนอยู่คืออะไรก่อนที่ผ้าม่านสีแดงนั่นจะลดระดับลงมาถึงพื้นเสียอีก
กรงใดๆ ก็ยากที่จะกักขังปีกของ Sigarda ได้... แม้ในตอนนี้มันจะโชกเลือด และฉีกขาดเสียหาย
ม่านสีแดงที่พันธนาการเธอจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
แม้เวทย์มนต์ที่ผูกมัดเธอเอาไว้จะทรงพลังแค่ไหน แต่พลังของนางฟ้านั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะดับสูญไปง่ายๆ และอย่างน้อย เธอก็ไม่ถูกจับห้อยหัวเหมือนนางฟ้าองค์ที่ถูกจับไว้ที่คฤหาสน์ Markov ในอดีตกาล
Sigarda สบตากับ Sorin อีกครั้ง... สายตาเว้าวอนร้องขอความช่วยเหลือจากเธอเหมือนกับนางฟ้าองค์เดิม... ความรู้สึกอึดอัดกลับมาอีกครั้ง... คำสั่งในวันวานกลับมาอีกครั้ง
ดื่มเพื่อเป็นนิรันดร์
แล้ว... เหตุใดภาพในอดีตถึงมาปรากฏต่อหน้าเขาอีกครั้ง? เขากำลังทำอะไรอยู่? ทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งงั้นหรือ?
Olivia เองคงไม่ได้นำ Sigarda มาเป็นของขวัญงานแต่งให้ Edgar เท่านั้นหรอก
เลือดที่หลั่งไหลจากบาดแผลของนางฟ้ากระตุ้นอดีตของ Sorin... อดีตของ Edgar... ผู้เคยเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และนักปรุงยาที่สกัดเลือดนางฟ้าองค์ก่อน
Sorin คิดถึงความเป็นไปได้ในสถานการณ์เหล่านี้...
เขากลั่นกรองความเป็นไปได้ทั้งหลาย... ถ้าเลือดของนางฟ้าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ตระกูลของเขากลายเป็น Vampire ได้แล้วล่ะก็
มันก็เหลือแค่ไม่กี่อย่าง...
ถ้าคุณควบคุมเลือดของมนุษย์ได้... คุณก็จะเป็นนายเหนือหัวของมนุษย์ และถ้าคุณควบคุมเลือดของนางฟ้าได้... คุณก็จะกลายเป็นนายเหนือหัวของนางฟ้า
มันอาจจะต้องใช้ Vampire ที่มีประสบการณ์มากพอจะรับพลังอันมหาศาลของนางฟ้า...
แต่ถ้าคุณดื่มเลือดของนางฟ้า และมันกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของคุณแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะควบคุมนางฟ้า... ถ้าดื่มเข้าไปแล้วยังไม่ตายเสียก่อน
Sigarda's Imprisonment
แนวคิดนี้มันง่ายมากๆ แต่การจะทำตามไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อ Sigarda เป็นหนึ่งในนางฟ้าที่เก่าแก่ที่สุดใน Innistrad การจะควบคุมเลือดที่ทรงพลังแบบนี้ อาจจะต้องอาศัยตัวกลายที่มีพลังพอๆ กัน...
และนั่นคือที่มาของกุญแจ Moonsilver... ตัวกลางที่พร้อมจะรองรับพลังมหาศาล ที่แม้แต่ Eldrazi ยังไม่สามารถต้านทานมันได้
กุญแจ Moonsilver ที่ Arlinn Kord และอีกหลายคนตามหา
มันอยู่ในมือของ Olivia ตอนนี้ และถ้วยบูชายัญตรงหน้า... เหมือนกับแม่กุญแจ Sunlock ที่ทั้งคู่ออกแบบมาเพื่อใช้งานด้วยกันอย่างสมบูรณ์
Sorin กับภาพสุดสะพรึงตรงหน้า... ปู่ Edgar ที่ยื่นมือไปจับกุญแจ พร้อมกุมมือของ Olivia... มันคือกุญแจสู่การครอบงำทั้งดวงดาว
ถ้า Olivia ควบคุมนางฟ้าทั้ง Innistrad ได้ ราตรีนิรันดร์ก็แทบจะไร้ความหมายไปทันที
Innistrad อาจจะอดทนมาได้ขนาดนี้... แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนของ Olivia คงจะไม่เหลือ Innistrad อีกต่อไป
ความโกรธเกรี้ยว ผสมกับความกลัวที่อยู่ในใจของ Sorin บีบให้เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากโซ่เงินที่พันธนาการเขาอยู่
แต่ยิ่งดิ้น มันก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น ทาสที่แต่งตัวเป็นทหารศักดิ์สิทธิ์แห่ง Avacyn เดินเข้ามาเสริม พร้อมๆ กับหนึ่งในนั้น ที่แต่งตัวด้วยหมวกทรงสูง เลียนแบบบาทหลวงประจำโบสถ์ในลัทธิเดียวกัน
ทุกๆ อย่างในงานนี้ เหมือนประกอบขึ้นเพื่อดูหมิ่น Sorin ชัดๆ
สายตาของผู้ร่วมงานจดจ้องมาที่เขา... ชี้นิ้วมาที่เขา... ซุบซิบนินทาว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป...
ดื่มเพื่อเป็นนิรันดร์... ทำอย่างกับเขามีตัวเลือก... ทำอย่างกับเขาอยากจะมีชีวิตนิรันดร์...
“ถ้าแกไม่ยอมมาร่วมงาน ฉันจะไม่เชิญแกอีกแล้วนะ” ข้อความในจดหมายจากป้าคนหนึ่งของ Sorin... เธอทำเหมือนงานราตรีครั้งนั้นมันสำคัญเกินกว่าเรื่องใดๆ ในจักรวาล
“มีใครบอกแกบ้างมั้ย ว่าแกมันน่าเบื่อน่ะ?” ข้อความจากจดหมายที่ส่งมาเมื่อราวๆ ปีก่อน จากลุงอีกคน ที่ตอนนี้แกนั่งสบายใจเฉิบ ห้อมล้อมด้วยสาวๆ ทาส ที่มาเป็นทั้งเครื่องคลายกำหนัด และอาหารไปในเวลาเดียวกัน... นี่นะเหรอ เรื่องสนุกๆ ในแบบฉบับของเขา?
ร่างของนางฟ้าถูกแขวนอยู่กลางห้องบอลรูม แต่ลุงแกก็สนแค่เรื่องของตัวเองไปวันๆ
โคตรของโคตรทรมานเลย...
Olivia ส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับทาสที่แต่งตัวล้อเลียนบาทหลวง
เขาดูกระตือรือร้นที่จะอ่านมันเสียเต็มประดา
“แขกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน” ทาสบาทหลวงคนนั้นอ่านข้อความด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยพิธีกรรมในโบสถ์ “ท่านกำลังจะได้เข้าร่วมพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดใน Innistrad แล้วนะครับ, มีคำกล่าวที่ว่านกกระสานั้น จะจับคู่เพียงครั้งเดียวตลอดชีวิต และกับผู้มีอายุเป็นนิรันดร์เช่นพวกเรา คำมั่นสัญญาในความรักนิรันดร์นั้น ยากเกินมนุษย์เดินดินจะหยั่งถึง...
และท่านหญิงแห่งตระกูลที่สูงส่งที่สุด ท่านหญิง Olivia Voldaren ได้มอบหัวใจของเธอแก่ท่านลอร์ด Edgar Markov, ชายผู้พร้อมมอบความรักอย่างไร้เงื่อนไขให้กับเธอ...
หลวงพ่อเข้าใจว่า Sorin Markov เป็นผู้นำท่านลอร์ดมาเพื่องานมงคลสมรสในครั้งนี้สินะ?”
“ข้าไม่รู้เรื่อง!” Sorin ตะโกนออกมา ฝืนพยายามจะสะบัดตัวให้หลุด แต่ทหารยามก็ดึงโซ่ให้เขาเสียหลักล้มลง จนกลายเป็นตัวตลกในสายตาแขกคนอื่นๆ
“อย่าไปใส่ใจหลานฉันเลย” Edgar ตอบ “พวกคุณก็รู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบงานสังสรรค์น่ะนะ”
“เป็นพวกไม่ค่อยรับแขกน่ะนะ” Olivia เสริม
“โอ้... ถ้าเช่นนั้น เชิญคู่บ่าวสาว กล่าวคำสาบานได้เลย, ถ้าทั้งคู่ได้เตรียมมา” บาทหลวงคนเดิมพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มมุมปาก
และทันทีที่สิ้นคำ Olivia ก็รีบพูดคำสาบานของเธอออกมาทันที
“Edgar... Edgar ที่รัก นับตั้งแต่เราพบกันหลายศตวรรษก่อน แม้ว่าฉันจะจำไม่ได้ว่าเราพบกันที่ไหน, แต่ช่วงเวลาที่ฉันตกหลุมรักคุณมันเหมือนกับพึ่งผ่านมาเมื่อวาน... และเมื่อได้โอกาส, นาย Sorin ปล่อยโลงศพของคุณไว้เฉยๆ...
ไม่ยอมดูดำดูดี มันแย่มากๆ ที่เขาทำแบบนั้น... แต่ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันจะดูแลคุณเอง, เราจะปกครอง Innistrad, ฉันจะรับฟังความเห็นอันปราดเปรื่องของคุณ, ฉันพร้อมจะมองข้ามเรื่องผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของคุณ และฉันสัญญา ว่าจะรักษาเกียรติของคุณ ในฐานะสามี”
“ขอบพระคุณท่านหญิง Voldaren ผู้เจิดจรัส, คำสาบานของท่าหญิงทำเอาหลวงพ่อน้ำตาเอ่อเลยนะ” บาทหลวงที่ไม่น่าจะร้องไห้มาเป็นศตวรรษๆ พูดออกมา “ท่านลอร์ด Markov พร้อมสำหรับคำสาบานหรือยังครับ?”
Sorin ฝืนคืบคลานไปยังแท่นพิธี แต่ก็ขยับได้ไม่ไกลมานัก ก่อนที่ทหารยามจะกดร่างเขาลงกับพื้นหินอ่อน เหมือนพวกขอทานในเมือง Thraben
แม้ว่าจะเหลือทหารยามกับโซ่เงินเพียงสองเส้น แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ Sorin ติดอยู่ในพันธนาการ
โซ่เส้นหนึ่งรัดไหล่ และดึงจนมันหลุดออกจากเบ้า ส่วนอีกเส้นนั้นรัดอยู่ที่คอของเขา
แต่ Sorin ก็ยังฝืนลุกขึ้นยืนอีกครั้ง โซ่ที่คอยิ่งบีบรัดจนหลอดลมของเขาแทบแตก... แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้อะไรก็ทนได้... ถ้ามันจะจบลงด้วยการกระซากหัวของ Olivia ที่ส่งยิ้มเหยียดหยามอยู่ในตอนนี้ ออกจากบ่า...
Sorin's Vengeance
หลายพันปีก่อน ปู่ Edgar เคยสอนบทเรียนสำคัญให้กับ Sorin
และคืนนี้ คือคืนที่เขาจะตอบแทนบุญคุณนั้น
ช่างไม้, ช่างตีเหล็ก, มนุษย์หมาป่า, Vampire, นางฟ้า- เลือดก็คือเลือด
Sorin รวบรวมพลังเพื่อดึงเลือดทั้งหมดในงานนั้น มันก่อตัวเป็นดาบสีดำ-แดง และตัดโซ่ที่พันธนาการเขาออกอย่างง่ายดาย
คราบเลือดสาดกระเซ็นเต็มเสื้อ และใบหน้าของ Sorin ที่ยืนตระหง่าน
“ข้าขอคัดค้าน!”
“Sorin” Olivia เรียกชื่อเขา และแยกเขี้ยวออกมา “แกพังงานของฉัน!”
- ซุ่มโจมตี -
“เอ่อ... ถามไรหน่อยสิเจ๊” Chandra พูดขึ้น
“ว่าไง” Arlinn ยิ้มมุมปาก พร้อมเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่หน้าประตูรั้วของอสังหา Voldaren, กับทหารยามคู่ใหม่... ที่ดูแล้วก็คงไม่พูดอะไรกับพวกเขาเช่นเดิม
“นี่งานแต่ง Vampire ใช่ป่ะ?”
“ใช่” Kaya ตอบด้วยความรู้สึกระแวงเล็กๆ “งานแต่ง Vampire ไง”
“คิดว่าจะมีขนมเค้กในงานป่ะ?”
Adeline ส่งเสียงหัวเราะในคอออกมา, Kaya เอามือมาปิดหน้าของเธอด้วยความระอา, Teferi ที่ยังเงียบๆ อยู่ แต่ไหล่โยกไปแล้วเพราะกำลังขำอยู่
Arlinn กลับนิ่งและครุ่นคิดถึงคำตอบ “มันก็น่าจะมีนะ... อย่างน้อยก็ของพวกทาสไง”
“พวก Vampire ไม่น่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อทาสของพวกเขาขนาดนั้นมั้ง” Kaya เสริม “ว่าแต่คุณ Teferi เคยไปร่วมงานหรือเปล่าล่ะ?”
“งานแต่งของ Vampire ไม่เคยนะ... แต่ก็...”
“มีงานอื่นที่ใกล้เคียงสินะ?” Adeline ถาม
“ก็... ใกล้เคียงนะ” Teferi ตอบพลางเอามือลูบคางของเขา, และส่งยิ้มออกมาอีกครั้ง “อันที่จริง งานแต่งไหนๆ ก็น่าจะคล้ายๆ กันไม่ใช่เหรอ? มันก็เป็นงานรวมญาติกลายๆ”
“พวกผีดูดเลือดก็ด้วยเหรอ?” Chandra ถามต่อ
Teferi พยักหน้า “น่าจะเป็นแบบนั้น”
ถ้าแบบนั้นจริง... งานนี้ก็คงไม่แย่นัก...
แต่ตอนนี้ พวกเขาคงต้องยืนขาแข็งอยู่หน้าประตูรั้วต่อไป
- แขกไม่ได้รับเชิญ -
การรับรู้ระดับเหนือมนุษย์ ทำให้ Sorin เอี้ยวตัวหลบคมหอกสีทองจากมุมอับสายตาได้ก่อนที่มันจะทะลวงหัวของเขา
มันเป็นวิธีการต่อสู้ของคนขี้ขลาด แต่มันก็ส่งให้ Sorin ได้อาวุธมาใช้งาน เขาหักปลายคมสีทองออกมาจากด้าม
และกระชากเอาหอกเล่มนั้น ดึงให้เจ้าของเก่าเขามาประชิดตัว ก่อนที่ Sorin จะหมุนตัว และเสียบปลายหอกเข้าที่ชายโครง
แผลมันไม่ได้ทำให้พลหอกคนนั้นหยุดการเคลื่อนไหว แต่เป็นเวทย์ของ Sorin ที่ทำให้เขาแน่นิ่งไป... และนั่น ก็ทำให้ Sorin ได้โล่มนุษย์มาใช้งาน
แต่ทหารยามนั้น ไม่เคยทำงานเพียงคนเดียว และรายต่อไปที่เข้าโจมตี ก็มาพร้อมกับดาบเล่มเขื่อง, น้ำหนักของมันน่าจะเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วๆ ไป จะใช้งานได้
เขาโจมตีอย่างสุดพลังไปที่ Sorin, โล่มนุษย์ของเขารับการโจมตี, คมดาบที่ไม่ใคร่จะคมเท่าไหร่ ฝังเข้าร่างนั้น
แต่หาใช่คมของดาบที่ทำให้มันทะลุเกราะโล่มนุษย์, มันเป็นแรงปะทะต่างหาก
ซึ่งนั่นก็ทำให้ Sorin ถึงกับประหลาดใจ... มันไม่เหมือนกับดาบ มันเหมือนกับกระบองมากกว่า
และถ้าเลือกได้ เขาคงจะหาดาบเล่มอื่นที่น่าจะสมดุลกว่านี้...
แต่มันไม่ใช่เวลาจะตามหาอาวุธที่สมบูรณ์แบบ, Sorin เหวี่ยงศพโล่มนุษย์ของเขาไปที่นักดาบ และก่อนที่ใครจะมองเห็น Sorin ก็อาศัยช่วงเวลาเพียงพริบตา ไปอยู่ด้านหลังนักดาบคนนั้น พร้อมกับคอที่โดนหักไปแล้ว
ดาบของเขาส่งต่ออย่างไม่เต็มใจให้กับ Sorin
และใช่เลย... ดาบที่เขาประเมินมันไร้ซึ่งสมดุล ด้ามของมันก็ใหญ่เกินกว่าจะจับได้มั่น
มันช่างเป็นอาวุธที่น่าขยะแขยง...
และนั่น จึงเป็นเหตุผลว่ามันคืออาวุธที่ควรค่ากับการใช้ตัดหัว Olivia
Sorin พุ่งเข้าโจมตี ผ่านทหารยามอีกสามคนที่ร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยน้ำหนักของดาบในมือ
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว... เขาไม่สนว่าใครจะมาเพื่อจับกุมเขา เพราะเป้าหมายคือหญิงที่คอยออกคำสั่งต่างหาก
ทหารยามอีกกลุ่มเข้าหวังจับกุม แต่เพียงการแกว่งดาบครั้งเดียว Sorin ก็จัดการพวกนั้นได้ทั้งหมด ในหัวของ Sorin เหลือเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น... ไม่ใช่กุญแจ Moonsilver , ไม่ใช่ราตรีนิรันดร์, ไม่ใช่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสมเพชของ Edgar
มันกลายเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ
และ Olivia ก็รู้ตัวดี เพียงสบตากับ Sorin, เธอรีบเก็บกุญแจ Moonsilver ราวกับพลังที่มันเก็บไว้จะช่วยเธอจากความเกรี้ยวกราดของ Sorin ได้
Sorin พุ่งเข้าโจมตี เขาเงื้อดาบขึ้นเหนือหัว และสับมันลงมายัง Olivia ที่เริ่มออกบิน
มันไม่ใช่ปัญหาของ Sorin เลย, เขาก้าวตามร่างที่เหลือเพียงภาพติดตาของ Olivia ไปพร้อมๆ แรงเหวี่ยงที่ยังหลงเหลืออยู่ในดาบ
มันต้องจบลงตรงนี้... เดี๋ยวนี้...
Moonsilver Key
แต่แล้ว แสงสีทองก็สว่างวาบออกมา มันผลักให้ปลายดาบนั้นเปลี่ยนวิถีออกไป
และ Olivia ก็เสียหลักจนกุญแจ Moonsilver หลุดมือของเธอไป...
“มาไล่ทำร้ายเจ้าสาวในงานแต่งเนี่ยะนะ! ไอ้ชายเฉิ่ม” Olivia แยกเขี้ยวใส่ Sorin อีกครั้ง
มือของ Edgar จับบ่าของ Sorin เอาไว้
“Sorin นี่มันเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่หลานรู้นะ, เราต้อง- เอะ นั่นมันอะไรน่ะ?” Edgar หยุดพูดไปกลางคัน
กุญแจ Moonsilver ที่ตกอยู่ตรงพื้นนั่นเอง ที่ส่องประกายสีทองออกมา ก่อนที่มันจะส่งร่างอะไรออกมา... มันคือวิญญาณ วิญญาณที่แต่งกายเหมือนเหล่าแม่มดที่ Innistrad
“ใครเชิญแกมายะ!?” Olivia ตะคอกออกมา
วิญญาณร่างนั้น หันมาทาง Olivia “เจ้าไง”
บรรดาเถาวัลย์ และดอกไม้จากโลกวิญญาณถักทอขึ้นมา ก่อนที่มันจะสลายไป
วิญญาณแม่มดเพียงโบกมือ เถาวัลย์เหล่านั้นก็เสมือนจะขยับตามปรารถนาของเธอ และเริ่มก่อร่างขึ้นมาเป็นไม้เท้าของเธอ
วิญญาณนั้น หันไปพบกับร่างของนางฟ้าที่ถูกแขวนอยู่กลางห้องราวกับเครื่องประดับในงาน Harvesttide, ใบหน้าของวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยความขวัญเสีย ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นความเข้าใจ, และหันไปจ้องกับ Olivia ด้วยดวงตาวิญญาณของเธอ “เจ้าตกต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
Edgar บีบไหล่ของ Sorin แน่นยิ่งขึ้น แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของ Edgar กลับยิ่งทำให้ Sorin รู้สึกห่างเหินกว่าที่เคย “Olivia, หยุดวิญญาณนั่นให้ได้นะ!”
Sorin ผลักปู่ของเขาให้พ้นทาง และเฝ้าบอกกับตัวเองว่านั่นไม่ใช่ปู่ที่เขารู้จัก... และถ้าแผนของ Olivia คือหยุดวิญญาณนั้น... งานของเขาก็คือหยุด Olivia
Sorin รวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
ดาบของเขาโจมตีเข้าไปที่แขนของ Olivia จังๆ แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะหยุดเธอ
Sorin ยังคงโจมตีอย่างไม่หยุดมือ อย่างน้อยก็เพื่อประวิงเวลาให้วิญญาณนั้นได้ทำสิ่งที่เธอต้องการ
แสงสีทองถูกซัดข้ามไหล่ของ Sorin ไป มันบอกใบ้กลายๆ ว่าเขาทำได้สำเร็จแล้ว
กรงเล็บของ Olivia จิกเข้าไปในหน้าของ Sorin
ถ้ามองไกลๆ ก็เหมือนกับแม่เลี้ยงที่ประคองศีรษะลูกเลี้ยงด้วยความเอ็นดู... แต่ไม่ใช่เลย เมื่อเพลิงเคียดแค้นในดวงตาของเธอมันไม่มีทางดับลงได้ง่ายๆ... Sorin ได้แต่ฝากความหวังไว้กับพลังของวิญญาณเมื่อครู่
และแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงที่เติมเต็มความหวัง แต่มันก็นำพาความทรงจำอันเลวร้ายของเขาไปพร้อมๆ กัน
เสียงกระพือปีกอันศักดิ์สิทธิ์ของนางฟ้า
Sigarda's Summons
การจะสร้างนางฟ้าขึ้นมา เห็นว่าไม่ต่างจากการสร้างกระจกสี, คุณต้องรู้ว่าคุณอยากได้อะไร ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำมันจริงๆ
แม้ว่า Sorin จะไม่ใช่ผู้สร้าง Sigarda ขึ้นมา, แต่เขาก็รู้จักเธอ... ก่อนที่จะสร้าง Avacyn ขึ้นมาเสียอีก
ก่อนที่ Sorin ไขจะปริศนาวงจรชีวิตของ Innistrad ได้, Sigarda คือหนึ่งในนางฟ้าที่เขาคอยศึกษา และเขาก็เคยเชื่อว่า เธอจะเป็นนางฟ้าองค์ที่ตอบโจทย์ของการรักษาสมดุลของ Innistrad
แม้ว่า Bruna จะเป็นนางฟ้าผู้ทรงภูมิ และไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ แต่ความสมบูรณ์แบบก็จะกลายมาเป็นอุปสรรคในยามที่ต้องการความฉับไวในการตัดสินใจ... ซึ่ง Sigarda กล้าที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นได้
กระนั้น Sigarda เอง ก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความหุนหันพันแล่นเหมือน Gisela, Sigarda ไม่ได้ใช้พลังของเธอเพื่อทำลายล้างสิ่งชั่วร้าย แต่เธอใช้มันเพื่อปกปักษ์รักษาเหล่ามนุษย์
Sorin อยากได้สิ่งเหล่านั้นมาเป็นส่วนสำคัญของ Avacyn... แม้มันอาจจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความรัก ที่ Sigarda มีให้เหล่ามนุษย์... แม้มันจะเป็นเพียงความรักกลวงๆ ที่เขาอยากจะส่งมอบให้เหล่ามนุษย์ด้วยตัวเอง
ทว่า ความรักต่อมนุษยชาติที่ Sigarda มี มันคือจุดอ่อนอันใหญ่หลวงที่ Sorin เห็น
หลายครั้งที่เธอเลือกจะมอบความเห็นใจ แทนที่คำตัดสินอันถูกต้อง... และมันคือสิ่งขัดขวางการดูแล Innistrad ในแบบที่ Sorin ต้องการ
แต่ Sigarda ในตอนนี้... ทำให้ Sorin มั่นใจว่าเขาไม่มีทางสร้างตัวแทนของเธอขึ้นมาได้แน่นอน...
เขาไม่มีทางจะใส่ความเกรี้ยวกราดที่ร่ำร้องหาความชอบธรรมไปมากมายขนาดนี้
เลือดที่โชลมอยู่ตามปีกขนนกของเธอ, สายลมที่หมุนวนล้อด้วยแสงทอประกายสีทอง, ร่องรอยบาดแผลเริ่มรักษาตัวเองอีกครั้ง, สายตาของเธอจ้องมองลงมาที่เหล่า Vampire เบื้องล่าง... ดวงตาที่แม้แต่ Vampire โบราณยังหวนนึกถึงสัญญะที่พวกมันเคยหวาดกลัว...
Sorin อดประหลาดใจไม่ได้ ว่า Olivia ไปจับตัว Sigarda มาได้อย่างไร... แต่ก็ช่างมันเถอะ... เพราะตอนนี้ สิ่งที่ Olivia ทำไว้กับ Sigarda... เธอจะโดนเอาคืนอีกนับสิบเท่า
ปีกของเธอสยายออก มันกระจายพลังออกมาอย่างมากมาย
“พวกเจ้าคือผู้มีมลทิน”
ร่างของเธอเปล่งประกายแสงสีขาวออกมา... ราวกับรุ่งอรุณที่ห่างหายไป... ขาวราวกับแร่ Alabaster... สว่างเกินกว่าที่ใครจะทัดทานได้
บานหน้าต่างกระจกสีเบื้องหลัง Sigarda ที่อาจจะใช้เวลานานเหนือคนานับ, โคมระย้ารูปทรงวิปริตเหนือหัวที่ไม่น่าจะใช้เวลาสร้างยาวนานไม่ต่างกัน มันอดให้คิดถึงเวลามากมายที่แรงงานแต่ละชีวิตจะต้องทุ่มเท เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของ Olivia ไปไม่ได้
แต่กาลเวลามากมายที่ทุ่มเทให้พวกมัน ก็แตกกระจายในชั่วพริบตานั้นทันที
เศษกระจกมากมายได้แปรไปเป็นอาวุธสุดอันตราย พวกมันพุ่งลงมาดั่งหอกแห่งหายนะที่เข้าโจมตีผู้เข้าร่วมงานสมรสในครั้งนี้
แรงระเบิดจากพลังของ Sigarda ส่งให้ Sorin กระเด็นไปนอนกองอยู่ข้างๆ น้ำพุเลือด
ซึ่งมันถือเป็นโชคของเขา เพราะเวทย์มนต์เลือดที่เขามี สามารถดึงพวกมันมาเป็นโล่ป้องกันเศษกระจกเหล่านั้นได้ทันเวลา... ไม่เหมือนกับผู้โชคร้ายรายอื่นๆ ที่กลายสภาพไปเป็นหมอนปักหมุดเรียบร้อย
และที่ไม่สู้จะน่ายินดีเท่าใดนัก... ทั้ง Olivia และ Edgar นั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยจากเหตุการณ์นี้...
และสิ่งที่แตกสลายไป ก็ไม่ใช่เพียงกระจกเท่านั้น
- งานเลี้ยง -
Chandra มีสิ่งที่อยากจะถามเป็นพันๆ ข้อ
Adeline มีคำตอบให้ราวๆ ครึ่งเดียว... ครึ่งของคำตอบนั้นก็เป็นเพียงการคาดเดา และลุ้นให้สมาชิกที่เหลือช่วยเสริมรายละเอียดให้
ในช่วงเวลาอันชวนเป็นกังวลที่นอกปราสาท Voldaren ไม่ว่าสถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงจะแย่แค่ไหน แต่ประกายในดวงตาของ Chandra ก็ยังคงสดใสอยู่เสมอ
และก็อาจจะเป็นเพราะ Adeline ตั้งใจมองดวงตาของ Chandra มากเกินไป ทันทีที่แสงสีทองฉาบลงบนแก้ของ Chandra, Adeline อดคิดไม่ได้ว่าเธอคนนี้... สวยราวกับนางฟ้า...
“เดี๋ยวนะ... นั่นมันอะไรน่ะ” Adeline มองไปทางปราสาทเป้าหมายของพวกเธอ... แสงสีทองส่องสว่างวาบออกมา
ม่านพลังที่ปกป้องตัวปราสาทได้แตกสลายไป...
Chandra ยิ้มออกมา “งานปาร์ตี้เริ่มแล้วล่ะ!”
Magic Story By K. Arsenault Rivera