- ไม่ใช่ที่ของเรา -

 

จักรพรรดินียืนอยู่ตรงข้ามห้อง, แสงจากโคมไฟด้านหลังส่งเงาของเธอให้ช่วยขับรูปทรงที่เป็นผู้ใหญ่ และหมวกปีกกว้างที่ปิดบังใบหน้าของเธอไปครึ่งหนึ่ง

10 ปีก่อน, Kaito ได้ปฏิญาณกับตนเอง ว่าเขาจะไม่กับมาเหยียบเขตราชวังอีก ถ้าจักรพรรดินียังไม่กลับมา… แต่ตอนนี้ เขายืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ ในเขตรั้วของจักรวรรดิ

เธอที่เป็น Planeswalker เหมือนๆ กับเขา

 

Kaito ไม่ได้รู้สึกรำลึกความหลังอะไรที่ Eiganjo เลย, การกลับมาที่สวนซากูระอีกครั้งมันให้ความรู้สึกของการอยู่ในฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง… เหมือนเขาเองเป็นชิ้นส่วนที่ไม่ได้ช่วยประกอบภาพฝันนี้

แววตาอันว่างเปล่าของจักรพรรดินีก็เช่นกัน… เธอรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ

 

Tamiyo ม้วนเก็บคัมภีร์ของเธอเข้ากระเป๋า, มนต์ล่องหนที่ใช้มาราวๆ 1 ชั่วโมง ฉีกขาดออกไปจากคัมภีร์

“เราว่า พวกเราน่าจะแจ้งทหารยามก่อนเข้ามานะ” เธอส่ายหน้าไปมาด้วยท่าทางแสนสง่า จน Kaito ไม่คิดว่าเขาจะลอกเลียนแบบได้ “พวกเราปิดเรื่องจักรพรรดินีกลับบ้านเป็นความลับไปตลอดไม่ได้หรอก”

“ฉันไม่ต้องการเวลาขนาดนั้นหรอก” จักรพรรดินีตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา, ผมสีขาวของเธอไสวไปตามสายลมยามเช้า “ฉันอยากได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็พอ” เธอหันทางซู้มประตู เปิดมันออก มันคือประตูที่เชื่อมไปยังอารามแห่งเทพ Kyodai, จักรพรรดินีก้าวเข้าไปในนั้น

Kaito แอบรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย, เพราะภาพที่เขาคาดหวังเมื่อตอนที่ได้กลับมาเจอกัน กลับกลายเป็นว่าจักรพรรดินีแทบจะไม่สนใจเขาอีกเลยหลังจากเธอจัดการหุ่นยักษ์ที่ Otawara

หรือเวลาทำให้พวกเขาห่างเหิน?

ยิ่งในตอนนี้ เธอเป็นถึงจักรพรรดินีแห่ง Kamigawa, เพื่อนในวัยเยาว์อาจจะเป็นเรื่องท้ายๆ ที่เธอต้องใส่ใจ

“การได้เจอกันอีกครั้ง, คงจะมีความรู้สึกมากมายระคนกันเต็มไปหมดเลยสินะ” Tamiyo เอ่ยด้วยเสียงสำเนียงราวกับจะกล่อมเด็ก

ไม่ได้หมายถึงกับองค์จักรพรรดินี เธอสื่อสารโดยไร้เสียง แต่หมายถึงเธอด้วย

Kaito ที่หน้านิ่งๆ ตอบกลับไป “นั่นแค่เดาแม่น หรือแอบอ่านใจผมเนี่ยะ?”

“เราอ่านใจไม่ได้หรอก, มันเป็นเรื่องซับซ้อนเกินไป… แต่เราก็เห็นความจริงผ่านดวงตาของเจ้า” Tamiyo มองออกไปที่สวน “เจ้าเคยมาที่นี่มาก่อน… อาจจะหลายครั้งด้วยซ้ำไป”

 

Kaito ขบฟันของเขา, จ้องไปที่ดอกไม้ใกล้ๆ  มันดูโรยรากว่าที่เขาเคยเห็น… และวิญญาณสถิตย์ของสวนดอกไม้ก็ไม่อยู่ใกล้ๆ อีกต่อไป

ในวัยเด็ก… สวนของจักรพรรดินีนั้น เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โปรดของ Kaito, แต่ตอนนี้ มันเป็นเหมือนที่ลานว่างเปล่า… เหมือนหลุมศพไร้ญาติ

Kaito ไม่เคยสิ้นศรัทธาเลยว่าซักวันหนึ่ง จักรพรรดินีจะกลับบ้าน… แต่คนของจักรวรรดิบางคนอาจจะไม่เชื่อเช่นนั้น

 

“เราเคยพบกันที่นี่… ตอนพวกเรายังเป็นเด็ก” Kaito พูด “ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของ Eiganjo เลย… แต่กับจักรพรรดินีแล้ว…” เสียงของเขาเปลี่ยนไป “เธอเป็นเหตุผลเดียวที่ผมทนอยู่ที่นี่”

Tamiyo พยักหน้า “และเธอก็เป็นเหตุผลที่เจ้าเดินออกมา, เดินออกมาสู่เส้นทางของ Planeswalker”

Kaito หัวเราะหึๆ ในลำคอ “ถ้าคุณจะพูดปลุกใจ แล้วเอาไปโยงเรื่องโชคชะตา หรืออะไรแบบนั้น ไม่ต้องเหนื่อยหรอก, ผมยังเชื่อว่าชีวิตคือทางเลือก” Kaito ยักไหล่ “แล้วถ้าเราไม่ชอบตัวเลือกที่มี เราก็ไปขอ, หรือไม่ก็แย่งตัวเลือกของคนอื่นมา”

Tamiyo เลิกคิ้วขึ้นมา “เจ้ามองโลกได้หม่นหมองดีนะ Kaito

แต่ก่อนที่บทสนทนาจะดำเนินต่อ, เสียงครวญครางแปลกๆ ก็ดังออกมาจากอารามแห่ง Kyodai

Kaito จำได้ว่า นั่นคือเสียงของเทพ Kyodai เอง - เสียงที่เหมือนกับการตะโกน, ร้องเพลง, และกระซฺบไปในเวลาเดียวกัน

Tamiyo หันไปที่ประตู ใช้พลังจิตของเธอสำรวจตรวจตราความปลอดภัย แต่ Kaito พุ่งตัวออกไปทันที, เท้ากระทบกับพื้นไม้เป็นจังหวะไม่ต่างจากหัวใจที่เต้นโครมครามเมื่อ 10 ปีก่อน

ในคืนนั้น Tezzeret อยู่ที่นี่, เขาคือชายที่มีแขนเป็นโลหะ เขาคือชายที่ Kaito ตามล่ามากว่า 10 ปี

 


Tezzeret, Betrayer of Flesh

 

แต่เมื่อ Kaito เข้าไปถึง, เขาไม่ได้พบกับ Tezzeret หรอก, แต่เป็นองค์เทพ Kyodai ที่ได้พบองค์จักพรรดินีอีกครั้ง

ร่างของท่านเทพทอดยาวเข้าไปหลังม่านหมอก, มีบางส่วนที่จมลงแช่น้ำตื้นๆ, ร่างของท่านบิดไปมาดูชวนอึดอัด, แม้ว่ามือของจักรพรรดินีจะแนบอยู่กับใบหน้าขององค์เทพแล้ว, แต่บอลแก้วสีดำที่กลางหน้าผากของท่านก็ไม่เปล่งประกายอย่างที่เคย

Kyodai ร้องคราญครางเหมือนท่านกำลังเจ็บปวด, และจักรพรรดินีก็ทรุดตัวลง กุมท้องของเธอเอง

Tamiyo ที่ลอยเข้ามา รีบรุดเข้าไปดูอาการ Spark ของเจ้ายังไม่เสียรเหมือนเคย, เจ้าคงอยู่ที่ Kamigawa นานกว่านี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีตัวช่วย”

มือของจักรพรรดินีสั่นเทิ้ม… เธอต่อสู้กับตัวเอง เพื่อจะอยู่ที่นี่ให้นานขึ้น

“ตัวช่วยแบบไหน?” Kaito วิ่งตามเข้ามา “ผมทำอะไรได้บ้าง?”

ดวงตาสีม่วงของ Tamiyo ยังคงจับจ้องไปที่ร่างของจักรพรรดินี, พวกเขาคงติดต่อกันด้วยโทรจิตอยู่

Kaito ไม่ได้เป็นกังวลเรื่องที่พวกเธอคุยกันโดยที่เขาไม่มีส่วนร่วม… เขาแค่อยากจะช่วยเพื่อนของเขาเท่านั้นเอง

และจักรพรรดินีก็พยักหน้าตอบ, Tamiyo หันมาหา Kaito และแบมือของเธอ “ขอ Reality Chip ด้วย”

Kaito ดึงเอาชิปออกมาจากกระเป๋าของเขาแบบไม่ลังเล, เขาเชื่อว่า Tamiyo จะช่วยเพื่อนของเขาได้ “ไอ้นี่จะช่วยให้เธอไม่ Planeswalk ไปไหนใช่มั้ย?”

Tamiyo มองชิปรูปทรงแมงกระพรุนอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะจับมือจักรพรรดินี “เราเชื่อว่า ชิปนี่จะช่วยทำให้ Spark ของเจ้าเสถียรขึ้น, แต่มันจะเพียงชั่วคราวเท่านั้น… ถ้ายังไม่ได้ศึกษามันเพิ่มเติม, เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น… หรือผลข้างเคียงจะเป็นอย่างไร”

จักรพรรดินีกัดฟันของเธอแน่น, องค์เทพ Kyodai ที่ลอยอยู่ใกล้ๆ ร้องออกมาด้วยความสับสน

“ทำสิ่งที่ทำได้เถอะ” จักรพรรดินีพูด, Tamiyo นำเอาแผ่นชิปนั้นวางไปที่หลังมือของจักรพรรดินี

แผวงจนของมันเรืองแสงออกมา และหนวดสายไฟของมันก็หลอมเข้ากับหลังมือ, จักรพรรดินีถึงกับร้องเสียหลงจากความเจ็บปวดที่เธอได้รับ… ก่อนที่เจ้า Reality Chip จะนิ่งไปจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ

 

เทพ Kyodai นิ่งไปแล้ว, และพักหนึ่ง จักรพรรดินีก็ดูสงบลง

 

แต่ใบหน้าของเธอก็เหยเกด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง, เธอเอามือกุมไปที่ขมับของเธอด้วยความเจ็บปวดและทรมาณ

Kaito ตะโกนบอก Tamiyo “รีบตามอาจารย์ Light-Paws เร็วเข้า, ท่านต้องรู้ข่าวการกลับมาของจักรพรรดินี, และท่านอาจจะหาคนมาช่วยได้!”

Tamiyo พยักหน้า และบินตรงออกไปทันที, จักรพรรดินีทรุดลงคุกเข่า, Kaito เข้ามาประคองโอบไหล่ของเธอ… เขาไม่สนเรื่องแบบระเบียบการปฏิบัติตัวอีกต่อไปแล้ว

ถ้าหากไม่ใช่การประลองแล้ว. มันถือเป็นเรื่องต้องห้ามที่จะแตะต้องตัวจักรพรรดินี, แต่สำหรับ Kaito, นี่ไม่ใช่จักรพรรดินีของ Kamigawa… นี่คือเพื่อนของเขาที่เจ็บปวดทรมานอยู่

“ผมช่วยอะไรได้บ้าง?” Kaito มองไปที่มือของจักรพรรดินี “ถ้ามันมาจากชิปนั่น ผมเอาออกให้ได้นะ”

“ไม่” จักรพรรดินีตอบกลับ, หายใจหอบเหนื่อย “ม- มันคือภาพซ้อน…” นิ้วของเธอจึกทึ้งหัวของตัวเอง “ฉันเห็นห้องทดลอง… ฉันเห็นสัตว์ประหลาด”

Jin-Gitaxias Kaito ขมวดคิ้ว… หรือว่า Reality Chip อีกแผ่นในห้องทดลอง มันอาจจะเชื่อมต่อกันอยู่?

ร่างของจักรพรรดินีกระตุกอีกครั้ง… ก่อนที่เธอจะผ่อนคลายลง มือที่เคยกุมหัวก็คลายลง, มันร่วงลงมาจับแขนของ Kaito เอาไว้… นี่คงเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากที่สุดแล้ว

จักรพรรดินีลืมตาขึ้นมา เธอกระพริบตา 2–3 ครั้ง “Kaito?”

“ผมอยู่นี่แล้ว” เสียงของเขาสั่นเครือ… เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่เขารอจะพูดคำนี้

จักรพรรดินีหายใจเอาอากาศเข้าปอด “เจ้าสัตว์ประหลาดนั่น… มันบอกเรื่องการกลับมาของฉันกับ Risona และพวก Asari Uprisers… พวกเขาเตรียมจะโจมตีราชวังโดยไม่ให้พวกจักรวรรดิตั้งตัว… และพวกเขาจะยึด Eiganjo ก่อนที่ประชาชนจะรู้ว่าจักรพรรดินีของพวกเขากลับมาแล้ว”

“ถ้าพวก Uprisers จะบุกที่นี่จริง เราต้องรีบแจ้งทหารซามูไร” Kaito รีบวางแผนขั้นต่อไป

แต่จักรพรรดินีก็จับแขนของ Kaito เอาไว้ “เราต้องไปหยุดเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น… มันจับเอาวิญญาณสถิตย์ไปทดลอง, จับพวกเขาไปทรมาณ” เธอส่ายหัว “ฉันจะปล่อยให้มันบานปลายเป็นสงครามระหว่างโลก (Kami War) ไม่ได้อีกแล้ว”

“ทำไมถึงคิดว่า Jin-Gitaxias จะก่อสงครามล่ะ?” Kaito ตอบด้วยเสียงเรียบเฉย… 

 

สงคราม Kami War นั้น ผ่านมาเป็นเวลากว่าพันปีแล้ว, และเรื่องราวที่ผ่านการบันทึก หรือเล่ากันปากต่อปากหลายๆ ครั้งมันก็เป็นแค่เรื่องเล่าในตำนาน มากกว่าจะเป็นเรื่องจริง

หรือมันจะเกิดสงครามครั้งใหม่จริงๆ?

Kaito ไม่ค่อยเข้าใจเหตุและผลเลย, แน่นอน ถ้าหากความสัมพันธ์ของโลกมนุษย์ และโลกวิญญาณสั่นคลอน

สงครามที่เกิดขึ้นอาจจะช่วยให้ Jin-Gitaxias หาจุดเชื่อมระหว่างสองโลก และทำลายมัน… ตามมาด้วยการล่าวิญญาณสถิตย์ได้อย่างง่ายๆ

งั้นเหรอ?... ไม่เลย นี่ไม่ใข่เรื่องสงครามแน่ๆ, สิ่งที่ Jin-Gitaxias ทำไว้กับพวกวิญญาณสถิตย์นั้นถูกเก็บเป็นความลับ, มันไม่ได้อยากให้ใครล่วงรู้… แม้แต่ Tameshi ที่คลางแคลงใจ ก็ยังโดนตัดตอน

 


Kyodai, Soul of Kamigawa

 

“อะไรก็ตามที่ Jin-Gitaxias วางแผนไว้ มันเกี่ยวข้องกับ TezzeretKaito แหงนมองเทพ Kyodai ที่ลอยวนไปมา…

เขาไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าองค์เทพ Kyodai นั้นน่าเกรงขามขนาดใหน? จนเขาเองได้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ… มือสีทองของมนุษย์นับพันๆ คู่ที่อยู่ใต้ท้องของเธอขยับไปมาด้วยตัวมันเอง

“คืนที่เธอหายตัวไป, Tezzeret ใช้ Reality Chip ตัวทดลองกับเทพ Kyodai… ผมคิดว่าพวกเขาพยายามจะควบคุมเหล่าวิญญาณสถิตย์”

“ฉันไม่สนแล้ว ว่าพวกมันต้องการอะไร” จักรพรรดินีตอบ “ฉันต้องหยุดพวกนั้นก่อนที่ประชาชนของฉันจะเป็นอันตราย”

สายตาของ Kaito จับจ้องไปที่ใบหน้าของจักรพรรดินี… เขาจ้องเธออยู่นาน เขาพยายามมองหาเพื่อนของเขาในนั้น… แต่เมื่อเขารู้ตัวว่าจ้องเธอนานเกินไปแล้ว เขาจึงหลบสายตา และเตรียมจะลุกออกไป แต่จักรพรรดินีกลับรั้งเขาไว้

 

“นายยังตามหาฉันอยู่เหรอ?” เธอพูดออกมาเบาๆ “แม้มันจะผ่านไปนานขนาดนี้แล้วน่ะนะ”

Kaito กระพริบตา ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ “รู้ได้ยังไง?”

“ฉัน Planeswalk ไปดวงดาวมากมายตลอดเวลาที่ผ่านมา… เรื่องของ “Planeswalker ชาว Kamigawa ที่ออกตามหาจักรพรรดินีที่หายไป” ไม่ใช่เรื่องดาดดื่นที่ผู้คนจะลืมกันได้ง่ายๆ หรอกนะ” จักรพรรดินียิ้มอ่อน “บางที ฉันก็มาช้ากว่านายไปไม่กี่ก้าว…ถ้าฉันควบคุมพลังของตัวเองได้ดีกว่า เราคงจะได้พบกันเร็วขึ้น”

 

Kaito รู้สึกปวดร้าวหัวใจ… ตลอดเวลาที่เขาตามหาเธอ เขาไม่เคยคิดเลยว่า เธอเองก็อาจจะตามหาเขาอยู่เช่นกัน

 

“ขอโทษที่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้” Kaito พูดขึ้น

“ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว” จักรรพรรดินีตอบ “นายมาสายทุกนัดนั่นแหละ, แม้แต่การซ้อมประลองของเรา”

“เดี๋ยวสิ นั่นม-” Kaito หยุด เพราะจักรพรรดินีหัวเราะออกมาเสียก่อน, เขาถอนใจ “ผมไปสายทีเดียวเองน่า”

จักรพรรดินีส่งยิ้มออกมา, ดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงตะวันกำลังขึ้น… ราวกับเป็นเวลาแสนนานแล้ว ที่เธอไม่ได้เป็นตัวเองอีกครั้ง

 


Kaito Shizuki

 

เวลาที่ผันผ่าน อาจจะทำให้หลายๆ คนเปลี่ยน, แต่ในช่วงเวลานี้ ที่ Kaito รู้สึกถึงวันวาน… วันที่ทั้งสองยังเป็นเพื่อนกันในเขตราชวัง, พูดคุยกันเหมือนกับโลกนี้ไม่มีกฏ, ระเบียบอะไรให้ปวดหัว

แถมตอนนี้ ยังไม่มีม่านกั้นฉากมาขวางระหว่างเขาทั้งสอง

เทพ Kyodai ร้องเพลงจากเหนือหัวของทั้งคู่ ก่อนที่ท่านจะถอยหลับเข้าไปในม่านหมอก

“เธอน่าจะยังสับสนอยู่น่ะ” จักรพรรดินีเอ่ยออกมา “อาจจะเป็นเพราะพันธะระหว่างจักรพรรดิและเทพ Kyodai- ตอนที่ Spark ของฉันมันไม่เสถียร มันเลยส่งผลกับเธอค่อนข้างมาก”

“แล้ว… เราจะแก้ไขมันยังไงได้บ้าง?” Kaito ถาม, แต่ไม่มีคำตอบจากจักรพรรดินี เธอแค่มองตามเทพ Kyodai ที่หายไปในม่านหมอกท้ายห้อง

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ และประตูของห้องก็ถูกเปิดออก, อาจารย์ Light-Paws และ Eiko ยืนอยู่ที่ทางเข้า โดยมี Tamiyo ลอยตามมา

 

อาจารย์ Light-Paws อ้าปากค้าง ดวงตาสีดำของเธอมองกลับไปมาระหว่าง Kaito และองค์จักรพรรดินี ที่ทั้งคู่นั่งดอบกันอยู่… Kaito รีบปล่อยมือที่โอบจักรพรรดินีออก และทั้งคู่ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง อาจารย์ Light-Paws จักรพรรดินียืดตัวให้สง่า และทักทายอาจารย์จิ้งจอก “ขอบคุณที่ท่านช่วยดูแล Kamigawa ในตอนที่ฉันไม่อยู่… และขอขอบคุณเหล่าสภาสูงด้วยเช่นกัน”

อาจารย์ Light-Paws โค้งคำนับ ที่เป็นยิ่งกว่านั้น เธอแทบจะพับตัวเองลงไป ส่วน Eiko ก็ดค้งคำนับจนตัวเธออยู่ระดับเดียวกับเอว

“ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้” จักรพรรดินีแอบเบ้ปากของเธอ “ตอนนี้ Risona กับพวก Asari Uprisers กำลังเตรียมตัวบุก Eiganjo แล้ว… ฉันเห็นว่าพวกเราควรจะเตรียมการให้พร้อม”

อาจารย์ Light-Paws กระตุกหนวดไปมา “ท่านทราบได้อย่าางไร?”

จักรพรรดินีส่งสายตามาทาง Kaito ชั่วครู่, ก่อนที่เธอจะยกมือของเธอที่มีชิผแมงกระพรุนเกาะอยู่ขึ้นมา “เหมือนว่า เจ้านี้ยังเชื่อมอยู่กับอุปกรณ์จากที่เอามันมา”

Tamiyo ร่อนลงมาที่พื้น “เจ้าแน่ใจหรือไม่ ว่าภาพที่เห็นนั้นคือภาพในปัจจุบัน?”

จักรพรรดินีพยักหน้าตอบ “สัตว์ประหลาดในภาพซ้อน มันบอกกับพวก Asari Uprisers ว่าฉะนกลับมาแล้ว… พวกนั้นอยากจะบุกเข้าโจมตีในตอนที่ยังได้เปรียบ”

“แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไม Jin-Gitaxias ถึงอยากจะบุก Eiganjo” Kaito ยักไหล่ “เขาอยากได้ร่างทดลอง ไม่ได้อยากครองบัลลังก์ซะหน่อย”

“สงครามอาจจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจก็เป็นได้” จักรพรรดินีตอบด้วยแววตาที่เหม่อลอย “บางทีมันอาจจะอยากได้ตัว Kyodai… หรือไม่ก็สิ่งที่เราขโมยมา” เธอก้มลงมอง Reality Chip ที่มือของเธอ… ตอนนี้มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมาแล้ว “ไม่ว่าจะด้วยเหตอะไรก็ตาม เราต้องเตรียมตัวรับการบุกโจมตี”

“Reality Chip อาจเป็นอันตราย แม้ว่าจะอยู่กับที่ดีก็ตาม” Tamiyo ยื่นมือออกมา “สิ่งที่เราพอจะช่วย Kamigawa ได้, คือทำลายมันทิ้ง”

“ไม่มีทาง” Kaito ขัดขึ้นมา “ชิปนี่คือสิ่งเดียวที่ด้วยไม่ให้จักรพรรดินี Planeswalk ออกไป” ใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้น
“ถ้าไม่มีมัน, เราอาจจะไม่ได้เจอจักรพรรดินีไปอีก 10 ปี… หรือนานกว่านั้น” Kaito ส่ายหน้า “เราต้องหาทางอื่น”

จักรพรรดินีมองอุปกรณ์ที่เกาะอยู่ที่มือของเธอ… จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ก่อนที่จะเอ่ยออกมา
“ฉันไม่อยากเร่ร่อนไปทั่วทั้ง Multiverse เหมือนกับคนหลงทางหรอกนะ… แต่ถ้ามันจะช่วยปกป้อง Kamigawa แล้วล่ะก็…”

“Kamigawa ต้องการองค์จักรพรรดิ” อาจารย์ Light-Paws รีบพูดขึ้น “ท่านคือบุคคลที่ประชาชนต้องการ”

ที่ข้างๆ Kaito, Eiko ยืนกุมมือ, โค้งคำนับ ก่อนจะเสนอ “พวกเราเตรียมพร้อมรับมือการบุกรุกมาตลอดค่ะ, เหล่าซามูไรพร้อมที่จะปกป้องท่านจักรพรรดินี และเทพ Kyodai

Kaito จ้อง Tamiyo “มันต้องมีวิธีหยุด Jin-Gitaxias ก่อนทุกอย่างจะวุ่นวาย”

“เราไม่รู้หรอกว่า พวกเราจะเก็บ Reality Chip ไว้ได้อย่างไร? แต่สิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าก็คืองานวิจัยที่ยังเหลือยู่ที่ห้องทดลองนั่น” Tamiyo ครุ่นคิดครู่หนึ่ง
“ถ้าพวกเราทำลายห้องทดลองนั่นได้, พวกเราก็จะทำลายทุกๆ อย่างที่พวกนั้นวางแผนมา… และอาจจะตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Reality Chip กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ห้องนั้น… และน่าจะช่วยให้จักรพรรดินีควบคุมพลังของตนเองได้ดีมากขึ้น”

 

กระนั้นความสับสนที่ระคนกับประกายความหวังกลับก่อตัวขึ้นในห้อง

“ผมจัดการเอง” Kaito พูดขึ้น “ผมจะไปทำลายห้องทดลองของ Tameshi เขามองไปที่อาจารย์ Light-Paws, ข่มความเจ็บจี๊ดๆ ในใจ ก่อนจะหันไปมอง Eiko แล้วพูดต่อ
“ผมอยากได้แค่ระเบิดจากท้องพระคลัง, ผมจะบุกเข้าไปวางระเบิด แล้วจุดระเบิดจากภายนอก”

Eiko แสดงสีหน้าไม่เต็มใจนัก Kaito นั่นมันของที่ยึดมานะ, มันเอาไปใช้โดยไม่มีใบอนุญาตได้… ที่สำคัญ นายไม่ควรรู้ว่ามันมีของพวกนี้อยู่ในท้องพระคลัง”

Kaito เลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดด้วยสำเนียงยียวนกลับ “จะเก็บไว้ทำไม ถ้าไม่คิดจะใช้มันล่ะอะ-เนะ?”

“เก็บไว้รอตรวจสอบก่อนจะเอาไปทำลายได้อย่างปลอดภัยหรอกน่ะ” Eiko ตอบด้วยเสียงจริงจัง

Kaito ผายมือออก “ก็นี่ไงล่ะ, ผมจะเอาพวกระเบิดไปทำลายอย่างปลอดภัยที่ห้องทดลองของ Tomeshi… โดยเฉพาะแถวๆ เครื่องผลิต Reality Chip”

Eiko ขมวดคิ้ว “เอาไประเบิดเล่นมันไม่ปล-”

“Kaito พูดถูกแล้วล่ะ” จักรพรรดินีพูดขึ้นมา, ทำเอา Eiko และอาจารย์ Light-Paws นิ่งไปเลย

“เราต้องทำลายโรงงานของ Tameshi, และกำจัดงานวิจัยที่อยู่ภายใน” จักรพรรดินีหันไปหาอาจารย์ Light-Paws
“เรากำลังต่อกรกับปัญหาจากดาวดวงอื่น… จากภัยที่ Kamigawa ไม่เคยพบเจอมาก่อน… การใช้อาวุธผิดกฏหมายไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทพนักหรอก, แต่สำหรับตอนนี้ มันคือทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด… และจะช่วยให้กองกำลังของจักรวรรดิ ตั้งมั่นอยู่ที่ Eiganjo ได้อย่างเต็มกำลัง”

Eiko และอาจารย์ Light-Paws ก้มหัวลงน้อมรับคำสั่ง

 


The Wandering Emperor

 

“เราคิดว่าเจ้าต้องการผู้ช่วย” Tamiyo เอ่ยกับ Kaito “ครั้งก่อนพวกนั้นเอาหุ่นยนต์ยักษ์มาไล่ล่าเจ้า, ไม่มีใครรู้หรอกว่าการกลับไป Otawara ครั้งนี้จะมีอะไรรอเราอยู่”

คิ้วของ Kaito กระตุกขึ้น “คุณอาสารึเปล่าล่ะ?”

“เราเชื่อว่าการมี Plaeswalker 2 คน มันดีกว่าคนเดียวอยู่แล้วล่ะ” Tamiyo ตอบอย่างเลี่ยงๆ

“ฉันจะไปกับพวกเธอ” จักรพรรดินีเข้ามาเสริม “ภาพที่ฉันได้รับจากการเชื่อมต่อชิปน่าจะช่วยพวกเราได้, และยังมีเหล่าวิญญาณสถิตย์ที่รอการช่วยเหลืออยู่”

“ด้วยความเคารพองค์จักรพรรดินี, ท่านควรจะอยู่ที่นี่เพคะ” อาจารย์ Light-Paws พูดด้วยหูที่ลู่ลง “ประชาชนของท่าต้องการผู้ชี้แนะ”

“พวกเขามีสภาสูงอยู่แล้ว, เหมือนตอนที่ฉันไม่อยู่ที่นี่ไงล่ะ” จักรพรรดินีตอบด้วยน้ำเสียงที่เน้นถึงความเป็นจริง หาใช่ความเอาแต่ใจ หรืออารมณ์อื่นใดไม่

แต่ Kaito รู้สึกได้ว่า วิ่งที่จักรรพรดินีพูดนั้น, มาจากความรู้สึกของเธอ… การที่เธอต้องเร่ร่อนไปในดาวแต่ละดวงไม่ว่างเว้น แล้วอยู่ๆ ได้กลับมายังที่ที่เรียกว่าบ้านอีกครั้ง, ต้องกลับมามีความรับผิดชอบระดับผู้ปกครอง, มันคงเป็นความรู้สึกที่ผิดแปลก แยกตัว…

เป็นความรู้สึกเหมือนกับที่ Kaito เคยรู้สึกกับ Eiganjo 

 

Eiko ยึกยักอยู่ซํกพัก ก่อนจะพูดขึ้นมา “ถ้า Jin-Gitaxias อยากได้ Reality Chip กลับไป… ที่ที่ปลอดภัยที่สุด ก็คงอยู่ภายในรั้วของจักรวรรดิ และท่ามกลางวงล้อมของซามูไรที่ปฏิญาณตนจะปกป้องท่าน”

 

หางของอาจารย์ Light-Paws ขยับไปมาเชิงสัญญะ ว่าเธอเห็นด้วยกับสิ่งที่ Eiko พูด… สัญญะที่ Kaito ไม่เคยได้รับ มีแต่พี่สาวของเขาเท่านั้นที่ได้เห็นมันบ่อยๆ

เขาไม่มีเรื่องไหนที่แอบอิจฉา Eiko เลย… ยกเว้นก็แต่เรื่องนี้

 

จักรพรรดินียืนครุ่นคิด และชั่งน้ำหนักของตัวเลือกที่มี… เธออาจจะเป็นทั้งองค์จักรพรรดิของ Kamigawa และเธอก็เป็น Wanderer… แต่บางครั้ง มันอาจจะต้องเลือกสิ่งที่ต้องเป็น…

“ฉันจะอยู่ที่นี่” ในที่สุด จักรพรรดินีก็ตัดสินใจ

อาจารย์ Light-Paws และ Eiko ก้มหัวรับรู้, พวกเขาแยกตัวออกไปเพื่อแจ้งทหารให้พร้อม, Tamiyo ตามพวกเขาไป ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่ที่ประตู

Kaito ยังคงยืนอยู่ที่เดิม… เขายังมองไปที่เพื่อนที่เงียบงันของเขา

จักรพรรดินีเหม่อมองไปในม่านหมอก เหมือนเธอกำลังมองหาคำตอบ

 

“ไม่มีใครใน Kamigawa จะดูแล Reality Chip ได้ดีเท่าเธออีกแล้ว… กำแพงแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้” Kaito พูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ถึงผมจะรู้ว่าคุณตระหนักอยู่แล้วก็เถอะ”

จักรพรรดินีหันมาสบตา Kaito “หน้าที่ของฉันที่ Kamigawa นั้นเป็นมากกว่าการแสดงพลัง… มันคือการมอบพลังให้กับประชาชนของฉัน”

“ด้วยการให้พวกเขาคิดว่ากำลังปกป้องเธองั้นเหรอ?”

“การต่อสู้อย่างมีเป้าหมายจะช่วยรวบรวมพลังใจของผู้คน, ทุกจดหมายเหตุที่เรามี บ่งบอกแบบนี้มาตลอด” จักรพรรดินีเดินเข้าไปหาเทพ Kyodai
“และที่นี่ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องปกป้อง… ถ้าพวกมันอยากได้ Kyodai, ฉันจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเธอ - แต่… ช่วยสัญญากับฉันที… ช่วยปลดปล่อยวิญญาณสถิตย์ที่นั้น ก่อนที่เธอจะจุดระเบิดนะ”

“ผมสัญญา” Kaito ตอบ

 

Tamiyo ที่หันหลังไป เพราะเกรงใจความเป็นส่วนตัวของทั้งคู่ แต่เธอส่งโทรจิตเข้ามาหา Kaito อยู่ดี เราต้องรีบไปแล้ว, เรายังต้องเดินทางอีกไกล

Kaito โค้งอำลา ก่อนที่จะเดินไปยังประตู, หันกลับมามองเห็นจักรพรรดินีกำลังเดินเข้าไปในหมอกจากอารามของเทพ Kyodai

เขาสัญญากับตัวเองอีกครั้ง เขาจะหาหนทางช่วยเหลือเธอ… ไม่ให้เธอต้องหายไปไหนอีก

 

- สองดีกว่าหนึ่ง -

 

เมื่อ Kaito และ Tamiyo มาถึง Otawara ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีส้ม ผสมชมพูระเรื่อๆ บอกว่าพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไป

ท้องถนนเงียบเชียบ,แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลอะไร แต่กลับไม่มีบรรดาทหารรับจ้างจากเมือง Undercity เลย… ไม่มีแม้แต่หุ่นตรวจการณ์

ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อวันก่อนไม่เคยเกิดขึ้นจริง

Kaito เดินไปด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด, ครุ่นคิดกับตัวเองตลอดเวลา, มันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนของ Jin-Gitaxias ไม่ได้ยึดพื้นที่บริเวณนี้ เพราะยังไงเสีย พวกนั้นก็เป็นคนนอก และสิ่งที่พวกมันทำ ย่อมไม่มี Futurists คนไหนอยากจะให้ความร่วมมือเป็นแน่…

แต่ว่า มันก็รู้สึกถึงความง่าย… ง่ายเกินไป

ใบหน้าของ Tamiyo ก็ฉาบไปด้วยความคลางแคลงใจไม่ต่างกัน หรือศัตรูของพวกเราที่ Otawara จะไปรวมกลุ่มกับ Asari Uprisers แล้วบุก Eiganjo? ห้วงความคิดของเธอส่งต่อให้ Kaito

 

แต่ Kaito เองไม่ได้เป็นกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน Eigajo หรอก…

เขารู้ดีว่าเหล่าซามูไรของจักรวรรดินั้น เป็นนักรบฝีมือดี ที่ได้รับการฝึกฝนมาด้วยศิลปะการต่อสู้ชั้นสูง… แต่กระนั้น พวกเขาก็เป็นเพียงทหารที่อยู่กับความสงบสุขมานานนับศตวรรษ, พวกเขาไม่เคยรับรู้ความโหดร้ายของสงครามนอกเหนือไปจากหน้ากระดาษจดบันทึกประวัติศาสตร์เลย

ในขณะที่พวก Uprisers นั้นแตกต่างอย่างสุดขั้ว… พวกเขาต่างต้องต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด… แค่บ้านเกิดที่เป็นภูเขาไฟที่หนาวเหน็บนั่นก็ทำให้ชีวิตพวกเขายากมากพอแล้ว… พวกเขารู้ว่าความพยายามเป็นอย่างไร… และพวกเขารู้ว่าจะต้องสละอะไรเพื่อเอาชัยชนะมา

ถ้าอิงเพียงทักษะการต่อสู้แล้ว ฝั่งจักรวรรดินั้นสูสีกับฝ่าย Uprisers อย่างแน่นอน… แต่เรื่องกำลังใจต่างหาก

พวกเขาพร้อมจะสละ Reality Chip เพียงเพื่อให้จักพรรดินีปลอดภัยหรือไม่? และถ้าจักรพรรดินีถูกลักตัวไป… พวกเขายินดีจะสละบัลลังก์เพื่อนำเธอกลับมาหรือไม่?

อาจารย์ Light-Paws ไม่มียอมให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นแน่นอน Kaito คิดในใจ

อาจารย์พูดเสมอๆ ว่าบัลลังก์นั้นเป็นยิ่งกว่าเก้าอี้… มันคือตำแหน่ง… มันคือสถานะที่ถ้าคุณทิ้งมันไป, สัญญะที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของ Kamigawa ก็จะหายไปตลอดกาล

แม้ว่า Kaito จะไม่ได้มีศรัทธาในจักรวรรดิเท่าใดนัก… แต่จักรพรรดินีมีทั้งอาจารย์ Light-Paws และ Eiko… ผู้ที่เขาเชื่อมั่นและศรัทธา

 

ทั้ง Kaito และ Tamiyo เคลื่อนตัวเข้าใกล้โรงงานของ Tameshi, ทั้งคู่ลักลอบเข้าไปภายในได้โดยไม่มีใครเห็น

ร่องรอยการมาเยือนครั้งก่อนของ Kaito ยังหลงเหลืออยู่, ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตัดภาพจากกล้องวงจรปิด, รอยขีดข่วน และร่องรอยการต่อสู้กับพวกทหารรับจ้าง

 

และประตูห้องทดลองที่ถูกเปิดทิ้งไว้

 

Kaito รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที… มันมีอะไรแปลกๆ แล้ว… ในเมื่องานวิจัยของ Jin-Gitaxias ที่ใช้เวลานานนับเดือนๆ จะต้องถูกเก็บเป็นความลับ…

และมันต้องมีค่าเป็นอย่างมากในสายตาของพวกมัน… แต่ทำไมถึงไม่มีการป้องกันใดๆ

 

หรือว่า… ทุกอย่างถูกย้ายออกไปจากที่นี่แล้ว

 


Explosive Entry

 

Kaito สบถออกมาเบาๆ เขาพุ่งเข้าไปในห้องทดลอง โดยไม่ฟังคำเตือนของ Tamiyo, เขาไม่รู้ว่าจะรออะไรอีก เพราะพวกเขามาสายเกินไปแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อ Kaito มาถึงห้องเดิม, บรรดาอุปกรณ์ และหลอดทดลองหลากสีสันยังคงอยู่ที่เดิม แต่ร่างของวิญญาณสถิตย์นั้น…

Kaito วิ่งไปถึงหน้าต่างกระจก เขาเอาหน้าแนบมันมองไปยังเตียงที่เคยมีวิญญาณสถิตย์นอนอยู่, บัดนี้มันเหลือเพียงแผ่นเหล็กและขี้เถ้า…

ขี้เถ้าที่บอกว่าวิญญาณสถิตย์ได้สลายร่างไปแล้ว

ความรู้สึกผิดเข้ากัดกินหัวใจของ Kaito ทันที, เขารีบเข้าไปในห้องนั้น, Reality Chip อีกอันยังเชื่อมอยู่กับอุปกรณ์ชิ้นเดิม… เหลือเพียงวิญญาณสถิตย์ที่หายไป, จากฝีมือของคนที่สังหาร Tameshi

“เรามาช้าเกินไปแล้ว” Kaito กำหมัดแน่น หันกลับไปหา Tamiyo, เขาปล่อยให้วิญญาณสถิจย์ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย… เขาไม่สามารถช่วยวิญญาณสถิตย์ได้ เขาทำได้แค่บอกกับตัวเองว่าเขากำลังทำภารกิจอื่นอยู่…

แต่ความตายของวิญญาณสถิตย์ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวัง

และเขาพึ่งให้คำสัญญากับจักรพรรดินี

Tamiyo พูดด้วยสีหน้าที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด “มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าเลย, เจ้าไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น”

Kaito บิดไหล่ของเขา ยักหน้าไปทางเครื่องจักรขนาดใหญ่ “เราต้องทำลายมันทิ้ง, ทำลายทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มันไปทำร้ายวิญญาณสถิตย์อื่นๆ ได้อีก”

“เราไม่ได้มาล่าวิญญาณสถิตย์หรอกนะ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น

Kaito และ Tamiyo หันหลังกลับไป, ชายที่มีดวงตาส่องแสงสีชมพูกับแขนเหล็กยืนห่างออกไป

Tezzeret

 

Kaito คำรามออกมา “แก!”

หลังจากที่  Tezzeret จ้องหน้าของ Kaito, ใบหน้าของ Tezzeret ก็ปรากฏความเข้าใจเรื่องราวทั้งหลายออกมา “ไอ้เด็กในวั- เด็กใต่หลังคานี่นา” เสียงของเขาเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “ยังทำหน้าขี้โมโหเหมือนตอนนั้นเลยนะ”

Tamiyo แทรกเข้ามา “ถ้าเจ้าไม่ได้มาตามล่าวิญญาณสถิตย์, แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องสังหารพวกเขาไปมากมาย?”

“พวกเราแค่อยากจะหาความเชื่อมโยงระหว่างวิญญาณสถิตย์ และโลกแห่งวิญญาณเท่านั้นเอง, หาความเกี่ยวของระหว่างโลกแห่งรูปธรรมและโลกแห่งอรูปธรรม - เรื่องของร่างกายและจิตวิญญาณ… พวกวิญญาณสถิตย์มีจำนวนเยอะ และหาง่ายกว่าสิ่งที่พวก Phyrexia ต้องการจริงๆ” Tezzeret แยกเขี้ยว, ดวงตาเต็มไปด้วยแรงปรารถนา “และข้าต้องขอขอบคุณด้วย”

“ขอบคุณเรื่องอะไร?” Kaito ตอบด้วยความงุนงง

 

เสียงเครื่องจักร และโลหะที่เสียดสักันดังขึ้น, Jin-Gitaxias ปรากฏร่างออกมาจากเงามืด, เดินเข้ามาจากด้านหลังของ Tezzeret ราวกับเงาของปีศาจร้าย, ดวงตาของ Tezzeret จ้องเขม็งมาที่ Planeswalker ทั้งสอง และ Jin-Gitaxias ก็กางกรงเล็บของมันออกมา

“ขอบคุณที่ทำให้งานวิจัยของพวกเราได้เดินหน้าต่อไป จากการได้ Planeswalker มาเป็นเหยื่อทดลอง” Jin-Gitaxias ตอบ

 

Kaito และ Tamiyo หันมามองกันและกัน

พวกเราคือสิ่งที่มันต้องการ Tamiyo สื่อสารด้วยพลังจิต งานวิจัยทั้งหมด… มันคือการศึกษา Planeswalker ไม่ใช่วิญญาณสถิตย์

 

Kaito ชักดาบของเขาออกมา พร้อมๆ กับบรรดาทหารรับจ้างจำนวนนับไม่ถ้วน… พวกมันรู้ว่า Kaito จะกลับมาที่นี่

ห้องทดลองที่กลายเป็นกับดัก… และทั้ง Kaito กับ Tamiyo ก็เดินเข้ามาติดกับอย่างง่ายดาย

Kaito รู้สึกเหมือน Tamiyo พยายามจะสื่อสารกับเขา, แต่ตอนนี้สมาธิทั้งหมดของเขามุ่งไปที่การควบคุมดาบของเขา, มันแยกส่วนส่งดาวกระจายพุ่งไปยังร่างของ Tezzeret

 


Tezzeret's Ambition

 

ทว่า ดาวกระจายทั้งหมดกลับนิ่งไปกลางอากาศ… ห่างไปไม่กี่เซนติเมตรจากร่างของชายแขนโลหะ

Tezzeret แสยะยิ้มออกมา และเขาก็ส่งดาวกระจายทั้งหมดพุ่งกลับมาใส่ Kaito และ Tamiyo. ทั้งคู่ถอยกลับไปตั้งรับแรงปะทะที่มาไม่ถึงจริง

ใบมีดคมๆ นั้น กลับลอยจ่ออยู่ที่เป้าหมาย… ท้าทายให้พวกเขาลองขยับ

Tamiyo เอื้อมหยิบคัมภีร์ของเธอออกมา แต่ทว่าแผ่นเหล็กจากฝ้าเพดานก็ฉีกลงมาตรึงแขนของเธอเอาไว้, เธอยังใช้พลังจิตของเธอค่อยๆ ดึงเอาคัมภีร์ออกมา ก่อนที่ Tezzeret จะส่งเสียงจุ๊ๆ

“เป็นข้าจะไม่ทำแบบนั้น… ถ้าไม่อยากให้เพื่อนของแกตายล่ะก็นะ”

 

เมื่อ Tamiyo หันไปทาง Kaito, เธอก็พบว่าดาวกระจายสองดอกจ่ออยู่ที่คอของ Kaito, พร้อมจะพุ่งทะลวงจุดตายทันที

“ไม่ต้องห่วงผม” Kaito พูดด้วยลมหายใจหอบๆ
ยังไงซะ พวกมันก็อยากได้ Planeswalker, ผมเห็นว่าพวกมันทำอะไรกับวิญญาณสถิตย์บ้าง - มันต้องการพวกเราไปทดลองกับเครื่องบ้าๆ นั่น มันไม่ยอมให้เราตายก่อนหรอก”

เสียงกรอกแกรกกระทบกันราวกับแมลงโลหะกระพือปีกดังมาจาก Jin-Gitaxias

“การมีร่างทดลองที่เยอะขึ้น ย่อมเพิ่มโอกาสในการวิจัยของเรา, แต่ถ้าไอ้ก้อนเนื้อตัวหนึ่งมันบังอาจมาข่มขู่, ร่างทดลองเพียงร่างเดียวก็เพียงพอแล้ว”

Tezzeret มองเหยียดมาที่ Kaito “แกคือ Planeswalker ที่ไล่ถามคำถามมากมายถึงตัวข้า… ถามหาจักรพรรดิที่หายไปจากทั่ว Multiverse”
Tezzeret
ก้าวเข้ามา พร้อมๆ กับใบมีดคมกริบจากดาวกระจายที่เริ่มเจาะเข้าชุดเกราะของ Kaito “ข้าต้องยอมรับตามตรง… ข้าคิดว่ามันจะ… เป็นอะไรที่ดีกว่าเจ้า”

“ไม่ต้องห่วงไป, นี่แค่ซ้อมหรอก” Kaito สวนกลับ

Tezzeret ขยับร่าง แต่ก่อนจะได้ทำอะไร, Kaito ก็ซัดมีดสั้นที่เก็บไว้ในเข็มขัดของเขาออกไป, มันพุ่งไปตัดสายไฟแขวนเหนือหัว Tezzeret

ประกายไฟพุ่งออกมา โคมไฟร่วงหล่นกระแทกพื้น, Tezzeret สามารถหลบไฟแขวนนั้นได้ เศษกระจกแตกกระขายไปทั่วพื้น, และชั่วพริบตานั้น ดาวกระจายของเขาก็พุ่งไปโจมตีทหารรับจ้างอีกคนทันที

Kaito ก้มหลบการโจมตี พร้อมกับเตะตัดล่าง, พุ่งตัวไปด้านหน้า พลางโจมตีสวนหลับเหล่านินจา และทหารรับจ้าง, โยนระเบิดควันใส่ Jin-Gitaxias ก่อนที่เสียงของ Tamiyo จะเรียกเขาทางโทรจิต

Kaito เสียงเรียกขอความช่วยเหลือของ Tamiyo ทำให้ Kaito ต้องหันกลับไป

ในตอนนี้เธอถูกเศษโลหะมากมายพันธนาการร่างเอาไว้, เศษโลหะเงินจ่ออยู่ที่ดวงตา มันขัดขวางไม่ให้เธออ่านคัมภีร์ของเธอได้… และ Kaito เองก็ไม่รู้จะช่วยเธอได้อย่างไร

ถ้าเขาจะหนีออกไปจากโรงงานนี้ เขาต้องทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่…

“ก็บอกแล้วไง” Tezzeret พูดด้วยเสียงแหบพร่า มือของเขาควบคุมเหล่าเครื่องจักรกลมากมาย, มันสั่นพ้องตอบสนองคำสั่ง “พวกข้าต้องการ Planeswalker แค่คนเดียว”

 

แม้ว่า Kaito จะรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถช่วย Tamiyo ได้แน่ๆ แต่เขาก็ทิ้งเธอไว้ที่นี่ไม่ได้…

ทิ้งไว้กับชะตากรรมที่เขาเห็นแล้วว่า เกิดอะไรกับเหล่าวิญญาณสถิตย์แล้วบ้าง… ความทุกข์ทรมาณจนวันตาย

และถ้าเขายังยืนหยัดจะต่อสู้ที่นี่ เขาก็คงจบลงที่ถูกจับเป็นตัวประกัน… ถ้ายังไม่ตายไปเสียก่อน… แต่ทางไหนๆ ก็ไม่เห็นว่ามันจะช่วยจักรพรรดินีได้เลย

เขากำลังจะหยิบเอาระเบิดที่อยู่ในกระเป๋า แล้วจุดระเบิดมันเสียตรงนี้… แรงระเบิดมันมากพอที่จะระเบิดทั้งห้องทดลอง, รวมถึง Jin-Gitaxias และ Tezzeret ไปพร้อมๆ กัน… นี่คงเป็นหนทางที่เขาจะปกป้อง Kamigawa, จักรพรรดินี และเทพ Kyodai ให้พ้นจากภัยอันตราย

และถ้า Reality Chip ที่ยังเชื่อมต่อกับเครื่องมือตรงนี้พังไป, จักรพรรดินีเองก็คงจะพอหาทางรักษา Spark ที่ไม่เสถียรของเธอได้อยู่

 

นิ้วของ Kaito กำลังจะกดปุ่มให้ระเบิดทำงาน… ผู้คนต่างเสียสละทุกๆ อย่างเพื่อสงคราม… แต่…

แต่สิ่งที่เขาจะทำมันคือการเสียสละเพื่อเพื่อนเท่านั้น

 

Kaito ขว้างระเบิดที่จุดขึ้น ไปยังเครื่องจักรที่เชื่อมกับ Reality Chip, มันลอยแหวกอากาศเพื่อพร้อมจะทำลายทุกอย่าง…

ทว่า มันกลับไม่ระเบิด - มันลอยค้างอยู่กลางอากาศ และค่อยๆ ลอยกลับไปหา Tezzeret

เขาหัวเราะอยู่ในลำคอ “ปัญหาของแกก็คือ” Tezzeret พูดด้วยเสียงอันเยือกเย็น
“แกพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป, เทคโนโลยีที่ข้าเป็นผู้กุมอำนาจทั้งหมด” และฉับพลัน ตัวจุดระเบิดในมือของ Tezzeret ก็กระจายเป็นชิ้นๆ, เหลือเพียงเศษเหล็ก และแผงวงจร

ก่อนที่จะมีอะไรบางอย่าง ฟาดไปที่หัวของ Kaito, และเขาก็หมดสติไป

 

- ภาพซ้อน -

 

ดวงตาของ Wanderer เบิกโพลง, เหงื่อกาฬไหลท่วมหน้า, เธออ้าปากเอาอากาศเข้าปอด, นิ้วจิกไปยังพื้นของอาราม

Eiko ที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “ท่านเห็นภาพอะไรเพคะ? ท่านไหวมั้ย?”

Wanderer มองไปรอบๆ ห้อง, หายใจหอบเหนื่อย เหมือนเธอกำลังตรวจดูว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่

เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจะตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้

เสียงครางของ Kyodai ช่วยบอกว่าเธอยังอยู่ที่ Kamigawa, เธอยังอยู่ที่บ้านของเธอ… แม้ว่ามันจะไม่รู้สึกคุ้นเคยเท่าใดก็ตาม

Wanderer ลุกขึ้น และคว้าผ้าคลุมของเธอ Kaito กับ Tamiyo… พวกเขากำลังอยู่ในอันตราย”

ดวงตาของ Eiko เบิกโต, เต็มไปด้วยความเป็นกังวล, Wanderer อาจจะไม่รู้จัก Eiko ดีเท่ากับ Kaito, แต่เธอจดจำเรื่องราวที่ Kaito เล่าให้เธอฟังได้ดี… เธอรู้ว่าทั้งคู่นั้นผูกพันธ์กันมากแค่ไหน… อาจจะมากกว่าสายสัมพันธ์ที่ผูกด้วยพันธะระหว่าง Kyodai กับร่างทรงอย่างเธอก็เป็นได้

และจากสิ่งที่ Wanderer เห็นในภาพซ้อนนั้น, มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Eiko จะแสดงความกังวลออกมา

อาจารย์ Light-Paws ที่ยืนอยู่หน้าห้องเอ่ยขึ้นมา “อันตรายแบบไหนเพคะ?”

“พวกเขาถูก Tezzeret และ Jin-Gitaxias ซุ่มโจมตี” Wanderer พูดจากภาพที่เธอเห็นอย่างแจ่มชัด ราวกับเธออยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง “ถ้าฉันไม่ตามไปช่วย… ทั้งคู่ไม่มีทางออกมาจากที่นั่นได้แน่ๆ”

หางของอาจารย์ Light-Paws รำแพนออกมา “Eigajo ต้องการจักรพรรดิเพคะ, พวกเราอยู่โดยไร้ศูนย์รวมจิตใจมานานเกินไปแล้ว, พวกสภาสูงก็ขัดแย้งกันเองจน Kamigawa ไม่เป็นปึกแผ่น… ตอนนี้พวก Asari Uprisers ก็จะบุกเข้ามาแล้วด้วยนะเพคะ”

Wanderer มองตาของอาจารย์ Light-Paws ก่อนที่จะตอบ “ท่านดูแล Eiganjo โดยไม่มีฉันมาเป็นเวลานับสิบปี, มันคงไม่เป็นอะไรมั้ง ถ้าท่านจะช่วยดูมันอีกซัก 10 นาที”

อาจารย์ Light-Paws กำลังจะตอบกลับ, กำลังจะร้องขอให้จักรพรรดินีอยู่ที่นี่ แต่ Eiko ก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

“พวกเราจะดูแลเขตราชวังในตอนที่ท่านไม่อยู่เพคะ” Eiko พูด และโค้งตัวลง… เมื่อเธอกลับมายืนตรงอีกครั้ง
ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา “ช่วยพาเขากลับบ้านด้วยเพคะ” Eiko พูดพร้อมๆ กับร้องไห้ออกมา

ความจงรักภักดีต่อจักรวรรดินั้นเป็นเรื่องที่ Eiko ให้ความสำคัญเป็นเรื่องแรก… แต่เธอจะไม่เสี่ยงเอาชีวิตของน้องชายไปสังเวยกับหน้าที่ของเธอ… แม้อาจารย์ Light-Paws จะยืนอยู่ข้างๆ

และนั่น เป็นจุดที่ทั้ง Eiko กับ Wanderer เห็นตรงกัน

Wanderer พยักหน้าตอบรับ เธอหันกลับไปหา Kyodai, ยกมือขึ้นเรียกหาเทพมังกร

เพื่อนเอ๋ย เธอสื่อสารกับเทพ Kyodai ฉันร้องขอความช่วยเหลือ

Kyodai ลดตัวลงมาจากม่านหมอกเบื้องบน เจ้าต้องการสิ่งใด จักรพรรดินี?

สำหรับคนอื่นๆ แล้ว เสียงของเทพ Kyodai นั้นเป็นเพียงเสียงผสมผสานที่ยากจะฟังให้รู้เรื่อง, แต่ในหัวของ Wanderer นั้น เธอได้ยินมันอย่างแจ่มชัด ราวกับเสียงกระดิ่งในห้องที่ว่างเปล่า

ฉันไม่สามารถบังคับพลัง Spark ในตัวได้, แต่ถ้าเธอช่วย - ถ้าด้วยพันธะที่เรามี - ฉันน่าจะควบคุมมันให้เสถียรพอที่เราจะเดินทางไปยังโรงงาน Wanderer อธิบาย

นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเลยนะ Kyodai เตือน เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นอยากได้ Reality Chip และตัวเจ้า

ฉันไม่กลัวสัตว์ประหลาดที่ฉันมองเห็นหรอกนะ Wanderer ตอบ ฉันพร้อมจะเจอกับศัตรูที่มองเห็น, ดีกว่าต้องระแวงศัตรูที่มองไม่เห็นจากมุมมืด

Wanderer คว้าดาบจากฝักที่ไหล่, จับมันด้วยมือทั้งคู่, เธอหยักหน้าส่งสัญญาณให้ Kyodai, เทพมังกรส่งเสียงและบินวนเหนือหัว และหมอกเริ่มกลืนกิน

พลังงานหลั่งไหลเข้ามาในร่างของ Wanderer , เธอรับรู้ได้ว่า Spark ของเธอพยายามจะพาเธอออกไปจากที่นี่ - แต่ความอบอุ่นจาก Kyodai ก็อยู่เคียงข้างเธอ

ในตอนนี้ Wanderer ไม่ค่อยแน่ใจว่าเธออยู่ที่ไหนแล้ว, หัวใจของเธอเองก็เกิดบรรลุธรรม…

บางที ที่ๆ เรียกว่าบ้าน อาจจะไม่ใช่สถานที่

แต่บ้านคงสถานที่ที่มีคนที่เธอใส่ใจ, และคนที่ใส่ใจเธอ

Kaito ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่มีต่อ Wanderer, เขาเดินทางไปดาวแล้วดาวเล่า เพื่อตามหาเธออย่างไม่หวาดหวั่น

ดังนั้นแล้ว เธอก็จะไม่ทิ้ง Kaito ให้เจอกับอันตรายเพียงลำพัง

 


Wanderer's Intervention

 

Wanderer หายตัวไปจากอารามแห่งเทพ ทิ้งให้ Eiko, อาจารย์ Light-Paws และ Kyodai อยู่ที่ Eiganjo

เธอ Planeswalker ไปถึงโรงงานของ Tomeshi ราวกับความเร็วแสง, เธอไม่ได้แนะนำตัวเอง, ไม่แม้แต่จะมองหา Kaito

ทันทีที่สายตาของเธอจับภาพสัตว์ประหลาดที่ร่างกายหุ้มด้วยโลหะ ดาบในมือของเธอก็ฟาดตัดผ่านคอของ Jin-Gitaxias ทันที

บาดแผลฉกรรจ์ที่ ทำให้เครื่องจักรร้องดังออกมา, Wanderer ฝ่าฟันแนวป้องกันจนเข้าถึงตัวของ Kaito และ Tamiyo

ทั้งสองถูกพันธนาการจากสายระโยงระยางมากมาย พวกเขาถูกเตรียมตัวให้เป็นหนูทดลอง, Wanderer สำรวจสายเหล่านั้น ก่อนที่จะตัดจนมันขาดสะบั้น

 

เธอดึง Kaito ออกมา, เธอมองตาของเขาที่กระพริบไปมา ก่อนจะได้สติอีกครั้ง

“ม-มาทำอะไรตรงนี้เนี่ย?” Kaito พูดด้วยความมึนงง มือของเขาพยายามหาอาวุธที่ถูกปลดไปแล้ว “ถอยไปก่อน, ผมจัดการเอง”

นี่คือ Kaito ที่ Wanderer จำได้ดี… เด็กชายที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ค่อยได้

“ฉันว่านายน่าจะตั้งสติซักหน่อยนะ, ฉันมาช่วยนายต่างหากล่ะ… ถ้านับดูก็เป็นครั้งที่สองในรอบวันแล้วนะ” สายตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน “ถ้าจะเรียกร้องความสนใจกัน ใช้วิธีอื่นบ้างก็ได้”

Wanderer ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามา, พวกเขาเตรียมพร้อมจะสู้

แต่เธอก็เช่นกัน

จักรพรรดินีแห่ง Kamigawa ยื่นมีดสั้นให้กับ Kaito และส่งยิ้มมุมมปาก “ฉันรู้ว่าพอเราไม่เจอกัน นายก็ไม่ค่อยได้ซ้อมแล้ว, แต่พยายามตามให้ทันล่ะ”

 

 

Magic Story By Akemi Dawn Bowman